Page 356 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 356
สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
National Human Rights Commission of Thailand
ปลายเดือนพฤษภาคม ป 2517 มีชาวนาในอําเภอทาตะโก อําเภอหนองบัว และอําเภอชุมแสง
จังหวัดนครสวรรค ประมาณ 50 คน เดินทางมารองเรียนตอนายสัญญา ธรรมศักดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่ทําเนียบรัฐบาล
เพื่อขอความเปนธรรมเกี่ยวกับที่ดินทํากิน เนื่องจาก ถูกนายทุนขมขูและบุกรุกเพื่อยึดที่ดินที่ไดขายขาดมาใหแลว
เปนเวลานานกลับคืน เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2517 นายสัญญา ธรรมศักดิ์ นายกรัฐมนตรี มีคําสั่งอาศัย
โดยอํานาจตามมาตรา 17 แหงธรรมนูญการปกครองเขาดําเนินการอยางเฉียบขาดเพื่อชวยชาวนาชาวไร
ที่เดือดรอนจากเจาของที่นาและนายทุนเงินกูทั่วประเทศ รายละเอียดตามคําสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ สลร. 32/2517
มีใจความสรุปวา
“โดยที่ปรากฏวาในขณะนี้ ไดมีบุคคลบางคนเอารัดเอาเปรียบชาวนาชาวไรผูยากจนขัดสน โดยใช
อิทธิพลขมขูหรือกลอุบลายตาง ๆ เพื่อใหที่ดินตกมาเปนกรรมสิทธิ์ของตนโดยไมเปนธรรม นอกจากนั้น
เจาของที่นาบางรายอาศัยเหตุที่ขาวมีราคาสูงบีบบังคับชาวนาใหตองเสียคาเชานาในอัตราที่สูงเกินสมควร
จนชาวนาไมอาจเชานาทําไดทําใหเดือนรอนอยางยิ่ง รัฐบาลไดพยายามเจรจากับเจาของที่ดินเหลานั้น ขอความ
เห็นใจใหชวยเหลือเกื้อกูลชาวนาไดทํานาทําไรตอไปอีกระยะหนึ่งจนกวารัฐบาลจะจัดหาที่ดินใหชาวนาชาวไร
เหลานั้นได แตก็มิไดรับความเห็นใจ การกระทําของเจาของที่ดินเหลานั้นนับไดวาเปนการกอกวนคุกคาม
ความสงบเรียบรอยและศีลธรรมอันดีของประชาชน และเปนการบอนทําลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ
รัฐบาลจึงจําเปนตองใชมาตรการพิเศษเขาดําเนินการเพื่อประโยชนในการปองกัน ระงับ และปราบปรามการกระทํา
ดังกลาว อาศัยอํานาจตามมาตรา 17 แหงธรรมนูญการปกครอง นายกรัฐมนตรีจึงมีคําสั่งที่สําคัญ ๆ ดังนี้คือ
นายกรัฐมนตรีมีอํานาจตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่งหรือหลายคณะเพื่อดําเนินการชวยเหลือใหชาวนาชาวไร
ที่สุจริตไดทํานาทําไรทันฤดูการผลิตป 2517 นี้ ใหกรรมการที่ตั้งขึ้นเรียกเจาของที่ดินและชาวนาชาวไร
ที่ไดเคยทําประโยชนในที่ดินในป 2516 มาเจรจาทําความตกลงเพื่อใหชาวนาชาวไรไดใชที่ดินทํานาทําไรตอไป
ในกรณีที่เจาของที่ดินยินยอมตกลงและเจาของที่ดินไดลงมือทําประโยชนในที่ดินนั้นบางแลว ใหกระทรวง
มหาดไทยจายเงินชดเชยทดรองใหแกเจาของที่ดินตามที่เจาของที่ดินไดจายไปจริง ถาการทําประโยชนในที่ดินนั้น
เปนผลตอชาวนาชาวไรใหเรียกเก็บจากชาวนาชาวไรนั้นเมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตไดแลว ในกรณีเจาของที่ดิน
หรือผูเขาทําประโยชนในที่ดินรายใหมไมยอมมาเจรจาหรือไมยอมปฏิบัติตามคํารองของคณะกรรมการ
และขอเท็จจริงไดความวาที่ดินนั้นเปนที่ดินที่ชาวนาชาวไรไดเคยทําประโยชนอยูในป 2516 และเจาของที่ดิน
ไดบอกเลิกการใหเขาทําประโยชนโดยไมเปนธรรม และที่ดินแปลงนั้นยังมิไดใหผูอื่นเขาทําประโยชนกอนวันที่
คําสั่งนี้ใชบังคับ หรือปรากฏวาไดใหผูอื่นเขาทําประโยชนไปแลว แตการใหเขาทําประโยชนนั้นไดกระทําไปโดย
สมคบกันระหวางเจาของที่ดินกับผูทําประโยชนรายใหมเพื่อขัดขวางมิใหชาวนาชาวไรเดิมไดเขาทําประโยชน
ในที่ดินนั้น หรือเพื่อหลีกเลี่ยงคําสั่งนี้ หรือผูเขาทําประโยชนรายใหมยังมิไดลงมือทําประโยชนในที่ดินแปลงนั้น
ใหคณะกรรมการมีอํานาจจัดสรรใหชาวนาชาวไรผูที่เคยทําประโยชนในที่ดินแปลงนั้นในป 2516 ไดเขาเชา
รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข 335
นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”