Page 355 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 355

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                National Human Rights Commission of Thailand

                         1.  การกําหนดที่ดินใหราษฎรทํากิน ใหกําหนดไวครัวเรือนละ 50 ไร สวนผูที่จําเปนมากกวานี้

                ก็ใหพิจารณาพิเศษ

                         2. ใหหาทางจัดการแกไขเกี่ยวกับบุคคลยึดถือมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินมากเกินควร แตมิไดทําประโยชน

                         3.  พิจารณาหาทางที่จะใหไดมาซึ่งที่ดินสําหรับการจัดแบงตลอดจนการจัดใหบุคคลเขาอยูอาศัย
                หรือประกอบอาชีพ

                         นโยบายจัดสรรที่ดินของรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม มีความมุงหมายที่จะใหประชาชนคนไทย

                ทุกคนมีที่ดินเปนของตนเอง อันจะเปนหลักฐานที่มั่นคงของครอบครัว ทั้งการเปนที่อยูอาศัยและที่ประกอบอาชีพ

                โดยจอมพล ป. พิบูลสงครามไดชี้แจงวา นโยบายจัดสรรที่ดินเกี่ยวของกับการปรับปรุงสภาพการครองตน
                และครัวเรือนของราษฎรใหสมบูรณยิ่งขึ้น ดวยการใหราษฎรทุกคนทุกครัวเรือนมีที่ดินเปนของตนเอง สวนวิธีการ

                ในการจัดสรรที่ดินนั้น จอมพล ป. พิบูลสงครามไดอธิบายวา รัฐบาลจะใหประชาชนแตละคนมีที่ดินในจํานวนจํากัด

                พอแกอัตภาพของตน เชน สําหรับที่อยูใหมีไดเพียง 5 ไร สําหรับที่ประกอบการอุตสาหกรรมใหมีไดไมเกิน 10 ไร

                และสําหรับประกอบการกสิกรรมไมเกินคนละ 50 ไร เปนตน ซึ่งการจัดสรรที่ดินโดยวิธีการนี้จะไมใหบุคคล
                มีที่ดินมากไปจนเปนเหตุใหกีดกันคนอื่นมีที่ดินไมได เมื่อการจัดสรรที่ดินไดดําเนินไปดวยความเรียบรอย

                จอมพล ป. พิบูลสงคราม เชื่อวาราษฎรจะมีสภาพความเปนอยูที่ดีขึ้นและจะทําใหประเทศชาติมีความเจริญ

                รุงเรืองมากขึ้น

                         นโยบายดังกลาวเปนที่มาของประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 แตการผลักดันนโยบายไมสามารถ
                ทําไปไดจนสําเร็จ เนื่องจากจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต หัวหนาคณะปฏิวัติ มีประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 49

                ลงวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2502  ใหยกเลิกมาตรา 34 ถึงมาตรา 49 แหงประมวลกฎหมายที่ดิน เพราะเห็นวา

                บทบัญญัติในประมวลกฎหมายที่ดินซึ่งบัญญัติจํากัดสิทธิของบุคคลในการถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อการอยูอาศัย

                เกษตรกรรม อุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม โดยใหถือไดเพียงจํานวนเนื้อที่ดินที่กําหนดไว ผูใดจะถือกรรมสิทธิ์
                เกินไปกวามิได นั้น เปนการจํากัดโดยไมสมควร และเปนเหตุบอนความเจริญกาวหนาในทางเกษตรกรรม

                อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และสงผลใหเสียหายแกการเศรษฐกิจของประเทศ จึงสมควรที่จะยกเลิก

                ขอจํากัดนี้เสีย จึงทําใหปญหาที่ดินยังไมสามารถแกไขใหสําเร็จลุลวงไปได

                         จนกระทั่งในป 2517 ชาวนาชาวไร ประมาณ 4,000  คน จากภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก
                และภาคตะวันออกเฉียงเหนือไดประกาศกอตั้งสหพันธชาวนาชาวไรแหงประเทศไทย ทามกลางการชุมนุม

                ณ ทองสนามหลวง โดยมีเปาหมายเพื่อแกไขปญหาสําคัญ 3 ประการ คือ

                         1. การแกไขปญหาคาเชาที่ดินทํานา โดยเฉพาะการเชานาของภาคเหนือ

                         2. การแกไขปญหาที่ดินทํากิน
                         3. การแกไขปญหาราคาพืชผลตกตํ่า โดยเฉพาะราคาขาว





         334     รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
                 นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   350   351   352   353   354   355   356   357   358   359   360