Page 205 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 205

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                National Human Rights Commission of Thailand

                         กอนที่จะจัดขึ้นทะเบียนตามวรรคหนึ่ง ใหมีการรังวัดทําแผนที่ และใหผูวาราชการจังหวัดทองที่ประกาศ

                การจัดขึ้นทะเบียนใหราษฎรทราบมีกําหนดสามสิบวันประกาศใหปดในที่เปดเผย ณ สํานักงานที่ดิน ที่วาการอําเภอ
                หรือที่วาการกิ่งอําเภอ ที่ทําการกํานัน และในบริเวณที่ดินนั้น

                         การจัดขึ้นทะเบียนตามวรรคหนึ่ง ใหรัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษาและใหมีแผนที่แนบทาย
                ประกาศดวย

                         มาตรา 8 ตรี ที่ดินอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดินสําหรับพลเมืองใชรวมกันหรือใชเพื่อประโยชน
                ของแผนดินโดยเฉพาะ อธิบดีอาจจัดใหมีหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวงเพื่อแสดงเขตไวเปนหลักฐาน

                         แบบ หลักเกณฑ และวิธีการออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวง ใหเปนไปตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
                         ที่ดินตามวรรคหนึ่งแปลงใดยังไมมีหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวง เขตของที่ดินดังกลาวใหเปนไปตาม

                หลักฐานของทางราชการ
                         มาตรา 9 ภายใตบังคับกฎหมายวาดวยการเหมืองแรและการปาไม ที่ดินของรัฐนั้นถามิไดมีสิทธิ

                ครอบครอง หรือมิไดรับอนุญาตจากพนักงานเจาหนาที่แลว หามมิใหบุคคลใด
                         (1)  เขาไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการกนสรางหรือเผาปา

                         (2)  ทําดวยประการใด ใหเปนการทําลาย หรือทําใหเสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวดหรือที่ทรายในบริเวณ
                ที่รัฐมนตรีประกาศหวงหามในราชกิจจานุเบกษา หรือ

                         (3)  ทําสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเปนอันตรายแกทรัพยากรในที่ดิน
                         มาตรา 9/1 ใหผูรับอนุญาตตามมาตรา 9 เสียคาตอบแทนเปนรายปใหแกเทศบาล องคการบริหาร

                สวนตําบล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา หรือองคกรปกครองสวนทองถิ่นอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้งที่ดินที่ไดรับ
                อนุญาตตั้งอยู ยกเวนองคการบริหารสวนจังหวัด ทั้งนี้ตามวิธีการและอัตราที่กําหนดในขอบัญญัติทองถิ่นนั้น

                แตตองไมเกินอัตราตามบัญชีทายประมวลกฎหมายนี้
                         ใหองคกรปกครองสวนทองถิ่นในเขตจังหวัดแบงคาตอบแทนที่ไดรับตามวรรคหนึ่งใหแกองคการบริหาร

                สวนจังหวัดในอัตรารอยละสี่สิบของคาตอบแทนที่ไดรับภายในกําหนดสามสิบวันนับแตวันที่ไดรับ เพื่อเปนรายได
                ขององคการบริหาร สวนจังหวัด และใหคาตอบแทนสวนที่เหลือตกเปนรายไดขององคกรปกครองสวนทองถิ่น

                ที่ที่ดินที่ไดรับอนุญาตตั้งอยู ในกรณีที่ที่ดินดังกลาวไมไดตั้งอยูในเขตขององคการบริหารสวนจังหวัด ใหคาตอบแทน
                ที่ไดรับตามวรรคหนึ่ง ตกเปนรายไดขององคกรปกครองสวนทองถิ่นนั้นทั้งหมด

                         มาตรา 10 ที่ดินของรัฐซึ่งมิไดมีบุคคลใดมีสิทธิครอบครองและมิใชสาธารณสมบัติของแผนดิน
                อันราษฎรใชประโยชนรวมกันนั้น ใหอธิบดีมีอํานาจจัดหาผลประโยชนในการจัดหาผลประโยชน ใหรวมถึง

                จัดทําใหที่ดินใชประโยชนได ซื้อขาย แลกเปลี่ยน ใหเชา และใหเชาซื้อ
                         หลักเกณฑและวิธีการจัดหาผลประโยชน ใหกําหนดโดยกฎกระทรวงแตสําหรับการขาย การแลกเปลี่ยน

                และการใหเชาซื้อที่ดินตองไดรับอนุมัติจากรัฐมนตรี
                         การดําเนินการจัดหาผลประโยชนตามความในมาตรานี้ ใหคํานึงถึงการที่จะสงวนที่ดินไวใหอนุชน

                รุนหลังดวย




         184     รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
                 นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   200   201   202   203   204   205   206   207   208   209   210