Page 131 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 131

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                National Human Rights Commission of Thailand


                              4)  กรณีผลการตรวจพิสูจนพบวา ราษฎรอยูอาศัย/ทํากินมากอน ใหกรมปาไมจัดทําขอบเขตบริเวณ
                ที่อยูอาศัย/ทํากินใหชัดเจน หามขยายพื้นที่เพิ่มเติมโดยเด็ดขาด และดําเนินการตามกฎหมายเพื่อใหราษฎร

                อยูอาศัย/ทํากินตามความจําเปนเพื่อการครองชีพ แตถาเปนพื้นที่ลอแหลมคุกคามตอระบบนิเวศ พื้นที่ที่มี
                ผลกระทบตอประสิทธิภาพในการคุมครองดูแลพื้นที่ปาอนุรักษตามกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรี ใหพิจารณา

                ดําเนินการชวยเหลือราษฎรตามความเหมาะสมเพื่อใหหาที่อยูอาศัย/ทํากินแหงใหม หรือดําเนินการเคลื่อนยาย

                ราษฎรออกมาจากบริเวณนั้นไปอยูอาศัย/ทํากินในพื้นที่ที่เหมาะสม โดยในพื้นที่รองรับใหมีการสนับสนุน
                ดานสาธารณูปโภค การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสงเสริมอาชีพทั้งในและนอกภาคเกษตรกรรม รวมทั้งพิจารณา

                รับรองสิทธิในที่ดินตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวของ พื้นที่ที่ราษฎรไดเคลื่อนยายออกไปแลว ใหทําการปลูก

                ฟนฟูสภาพปาตอไป
                              5)  กรณีผลการตรวจพิสูจนพบวา ราษฎรอยูอาศัย/ทํากินหลังวันประกาศสงวนหวงหามเปนพื้นที่

                ปาไมตามกฎหมายครั้งแรก ใหกรมปาไมพิจารณาดําเนินการดังนี้ (1) ใหเคลื่อนยายราษฎรออกจากพื้นที่ปาอนุรักษ

                นั้น แลวทําการปลูกปาเพื่อฟนฟูสภาพสิ่งแวดลอม การเคลื่อนยายราษฎรออกจากพื้นที่ใหเตรียมแผนการรองรับ
                ในพื้นที่ที่เหมาะสม โดยสนับสนุนดานสาธารณูปโภค การพัฒนาคุณภาพชีวิต และสงเสริมอาชีพทั้งในและนอก

                ภาคเกษตรกรรม รวมทั้งการพิจารณารับรองสิทธิในที่ดินตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวของ (2) หากยังไมสามารถ
                เคลื่อนยายราษฎรออกจากพื้นที่ไดทันที ใหดําเนินการควบคุมขอบเขตพื้นที่มิใหขยายเพิ่มเติมโดยเด็ดขาด

                และในระหวางรอการเคลื่อนยายใหจัดระเบียบที่อยูอาศัย/ทํากินใหเพียงพอกับการดํารงชีพ

                              6)  การดําเนินการตาม 4) และ 5) จะตองกําหนดเงื่อนไขการใชพื้นที่ใหเปนไปในรูปแบบของ
                การอนุรักษที่ยั่งยืน เพื่อใหเกิดผลกระทบตอทรัพยากรธรรมชาติ และ/หรือสิ่งแวดลอมนอยที่สุด

                              7)  ใหทุกสวนราชการที่ดําเนินการพัฒนาพื้นที่สูง ทําการพัฒนาเฉพาะความตองการพื้นฐาน
                ในการดํารงชีพ

                            1.4) พื้นที่อื่น ๆ  ที่สงวนหรืออนุรักษไวเพื่อกิจการปาไม

                            กรณีที่มีราษฎรรองเรียนเสนอปญหา ใหจังหวัดดําเนินการตั้งคณะทํางานตรวจสอบขอเท็จจริง
                โดยใหมีทั้งฝายราชการและราษฎรฝายละเทา ๆ กัน การตรวจสอบขอเท็จจริงใหพิสูจนการอยูอาศัยครอบครอง

                ทําประโยชนในพื้นที่ใหชัดเจนวามีมากอนหรือไม ราษฎรเดือดรอนอยางไร เคยไดรับการชวยเหลือจากทางราชการ

                มาแลวหรือไม แลวเสนอมาตรการหรือแนวทางแกไขปญหาใหหนวยงานที่เกี่ยวของพิจารณา ตามมาตรการ
                และแนวทางของแตละพื้นที่ที่เปนปญหา ทั้งนี้ใหหนวยงานผูรับผิดชอบใหความเปนธรรมกับราษฎรใหมากที่สุด
















         110     รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
                 นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   126   127   128   129   130   131   132   133   134   135   136