Page 130 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 130
สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
National Human Rights Commission of Thailand
เพื่อคุมครองระบบนิเวศ และสภาพแปลงดังกลาวจะตองไมคิดกับปาผืนใหญ โดยรวมกับองคการบริหารสวนตําบล
ทองที่ และ ส.ป.ก. กรณีนี้ใหพิจารณาจัดทําเปนพื้นที่ทดลองจัดการเปนบางแหงกอน
(3) ให ส.ป.ก. นําผลการปฏิบัติตามบันทึกขอตกลงไปเรงรัดกําหนดเขตปฏิรูปที่ดิน เมื่อมีเขต
ปฏิรูปที่ดินแลวให ส.ป.ก. เรงรัดดําเนินการตอไป และใหกําหนดเปนเงื่อนไขการใชที่ดิน ส.ป.ก. ใหราษฎรปลูกไม
ผลหรือไมยืนตนอยางนอยรอยละ 20 ของเนื้อที่ที่ไดรับ กรณีเปนที่ดินที่ติดกับเขตปาไมจะตองปลูกไมผล
หรือไมยืนตนเปนแนวกันชน และใหนําเอาวิธีการจัดรูปแปลงที่ดินใหมีขนาดเหมาะสม เพื่อใชแกไขปญหา
เรื่องที่ดินอยูอาศัย/ทํากินของราษฎรในเขตปาไมดวย
1.2) พื้นที่ปาอนุรักษเพิ่มเติม ตามผลการจําแนกเขตการใชประโยชนทรัพยากรและที่ดินปาไม
ในพื้นที่ปาสงวนแหงชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 และ 17 มีนาคม พ.ศ. 2535 ซึ่งกําหนดไววา
เมื่อดําเนินการในพื้นที่ใหกรมปาไมปรับแนวเขตไดตามสภาพขอเท็จจริงและความเหมาะสมในภูมิประเทศ
ผลจากการปรับแนวเขตใหดําเนินการ ดังนี้
(1) บริเวณพื้นที่ที่ปรับออกเปนพื้นที่ปาเพื่อเศรษฐกิจ หากมีราษฎรอยูอาศัย/ทํากิน
ใหกรมปาไมพิจารณาดําเนินการตามความเหมาะสม
(2) พื้นที่ที่ผานการตรวจสอบและมีความเหมาะสมที่จะกําหนดไวเปนปาเพื่อการอนุรักษ
ใหกรมปาไมกําหนดเปนปาอนุรักษตามกฎหมาย ตามความเหมาะสมในแตละพื้นที่ ทั้งนี้ ใหกรมปาไมจัดทํา
แนวเขตที่ชัดเจน และปองกันดูแลคุมครองอยางเขมงวด ไมใหราษฎรบุกรุกเขาไปยึดถือครอบครองอยูอาศัยทํากิน
หากมีการบุกรุกเขาไปยึดถือครอบครองใหดําเนินการตามกฎหมายอยางเฉียบขาด
1.3) ปาอนุรักษตามกฎหมาย เชน อุทยานแหงชาติ เขตรักษาพันธุสัตวปา เขตหามลาสัตวปา
และปาอนุรักษตามมติคณะรัฐมนตรี (พื้นที่ลุมนํ้าชั้นที่ 1, ชั้นที่ 2 และเขตอนุรักษปาชายเลน)
เนื่องจากเขตพื้นที่ปาอนุรักษไดกําหนดขึ้น เพื่อการอนุรักษสิ่งแวดลอม ดิน นํ้า พันธุพืช
และพันธุสัตวที่มีคุณคา หายาก เพื่อการปองกันภัยธรรมชาติ เชน อุทกภัยและการพังทลายของดิน รวมตลอดถึง
เพื่อประโยชนดานการศึกษา วิจัย นันทนาการของประชาชนและความมั่นคงของชาติ จึงมีแนวทางดังนี้
1) ยืนยันนโยบายของรัฐที่จะไมนําพื้นที่ปาอนุรักษตามกฎหมาย และปาอนุรักษตามมติ
คณะรัฐมนตรีไปดําเนินการตามกฎหมายวาดวยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
2) ใหกรมปาไมสํารวจพื้นที่ที่มีการครอบครองใหชัดเจนและขึ้นทะเบียนผูครอบครอง
เพื่อนํามาใชเปนขอมูลในการจัดการเพื่อการอนุรักษและการพัฒนาอยางยั่งยืน
3) ใหกรมปาไมประสานกับหนวยงานที่เกี่ยวของ ตรวจสอบพิสูจนการครอบครองที่ดินของราษฎร
โดยใชภาพถายทางอากาศของกรมแผนที่ทหาร (หากไมมีใหใชภาพถายดาวเทียม) ซึ่งถายภาพพื้นที่นั้นไวเปน
ครั้งแรกหลังวันสงวนหวงหามเปนพื้นที่ปาไมตามกฎหมายครั้งแรก ตรวจสอบรองรอยการทําประโยชนตอเนื่อง
มากอนวันสงวนหวงหามเปนพื้นที่ปาไมตามกฎหมายครั้งแรก และตองพิจารณารวมกับพยานหลักฐานอื่น
ซึ่งแสดงวาไดมีการครอบครองทําประโยชนตอเนื่องมากอนวันสงวนหวงหามนั้น ๆ ดวย
รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข 109
นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”