Page 69 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง การเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
P. 69
42 รายงานการศึกษาวิจัย
การเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อเอชไอวี
และแหลงรายได เปนเพราะสถานะการเปนผูติดเชื้อ และเฉพาะกลุมที่ตอบวาสาเหตุของการตกงานหรือสูญเสีย
รายไดเนื่องจากสถานะการติดเชื้อเอชไอวี รอยละ 30.97 ตอบวาสาเหตุหลักนั้นมาจากการเลือกปฏิบัติของนายจาง
และเพื่อนรวมงาน นอกจากนี้ กลุมตัวอยางรอยละ 11.59 ยังเคยถูกเปลี่ยนแปลงลักษณะงานทั้งในดานเนื้อหา
แนวปฏิบัติ หรือเคยถูกปฏิเสธการเลื่อนตําแหนงหรือการมีความดีความชอบอันเนื่องมาจากสถานะการเปน
ผูติดเชื้อดวย 84
สําหรับเรื่องการเปดเผยขอมูลสถานะการติดเชื้อในที่ทํางาน ขอมูลจากงานวิจัยดังกลาว
แสดงใหเห็นวา กลุมตัวอยาง รอยละ 13.17 ตอบวานายจาง/หัวหนางานรูสถานะการติดเชื้อเอชไอวี โดยมีคนอื่น
มาบอกโดยที่เจาตัวไมไดยินยอม รวมไปถึงมีสถานการณที่เพื่อนรวมงานรูสถานะการติดเชื้อเอชไอวีของพวกเขาจาก
85
คนอื่นมาบอก โดยที่เจาตัวไมยินยอมดวย (รอยละ 15.22) และเมื่อนายจางรับรูสถานะการติดเชื้อเอชไอวีของ
พวกเขา กลุมตัวอยางรอยละ 9.87 รูสึกวาพวกเขาถูกเลือกปฏิบัติ (ถูกเลือกปฏิบัติอยางมาก รอยละ 3.00 ถูกเลือก
ปฏิบัติอยูบาง รอยละ 6.87) อยางไรก็ดี ขอมูลดังกลาวยังแสดงใหเห็นแนวโนมที่ดี เมื่อพวกเขารูสึกวา การเปดเผย
สถานะการติดเชื้อ ไมไดทําใหนายจาง/หัวหนางานมีปฏิกิริยาตางไปจากเดิม (รอยละ 9.01) และมีการให
ความชวยเหลืออยูบาง (รอยละ 11.59) สําหรับในสวนของเพื่อนรวมงาน กลุมตัวอยางรอยละ 8.58 รูสึกวาพวกเขา
ถูกเลือกปฏิบัติอยูบาง รอยละ 16.74 รูสึกวาไมตางกัน และรอยละ 18.45 รูสึกวาเขาไดรับความชวยเหลือ
จากผูรวมงานอยูบาง 86
เมื่อผูติดเชื้อถูกเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพ ไมวาจะเปนระดับใด ผลกระทบโดยตรง คือ
ทําใหพวกเขาตองสูญเสียงานและแหลงรายไดหลัก โดยผูติดเชื้อจํานวนหนึ่ง (รอยละ 32.19) เคยสูญเสียงานและ
แหลงรายไดเนื่องจากการติดเชื้อเอชไอวี โดยมีสาเหตุหลักเปนเพราะสถานะการเปนผูติดเชื้อ และการเลือกปฏิบัติ
ของนายจางและผูรวมงาน และบางสวนยังรูสึกวาสถานะการติดเชื้อมีผลตอความกาวหนาในการทํางานของ
พวกเขาดวย แมวาผูติดเชื้อจํานวนหนึ่งจะไมเปดเผยสถานะการติดเชื้อตอนายจาง แตก็เลือกที่จะลาออกเมื่อรูสึกวา
87
ตนเองจะปวย เพราะไมตองการตอบคําถามของผูรวมงาน นอกจากนี้ การเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพ
ยังสงผลใหมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนดานอื่น ๆ ของผูติดเชื้อดวย โดยจากงานวิจัยของเครือขายผูติดเชื้อ
แสดงใหเห็นวา กลุมตัวอยางรอยละ 47.21 เคยถูกละเมิดสิทธิในดานตาง ๆ รอยละ 14.0 ถูกบังคับใหเขารับบริการ
ทางการแพทย รวมทั้งตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี รอยละ 50 เคยถูกปฏิเสธการทําประกันสุขภาพหรือประกันชีวิต
รอยละ 7.6 เคยถูกกักตัว กักเพื่อตรวจโรค ถูกทอดทิ้งใหโดดเดี่ยว แบงแยก ทั้งยังมีการตรวจเลือดการไดรับบริการ
ปรึกษาที่ไมรอบดานบีบบังคับการแจงผลเลือด การถูกกดดันใหบอกสถานะของการติดเชื้อโดยยินยอม หรือไม
88
ยินยอมนอกจากนี้ นาสนใจวามีผูติดเชื้อจํานวนหนึ่งถูกเจาหนาที่บังคับใหทําหมัน หรือสรางเงื่อนไขใหคุมกําเนิด
เพื่อรักษาดวยยาตานไวรัส ซึ่งเมื่อเผชิญกรณีการเลือกปฏิบัติเหลานี้ แมกลุมตัวอยางรอยละ 72.10 เคยพยายาม
89
รองเรียนใหมีการแกไขปญหา และไดรับการแกไขในระดับหนึ่งแตยังมีผูติดเชื้ออีกจํานวนมากเลือกที่จะไมรองเรียน
84 เรื่องเดียวกัน, หนา 91-97.
85 เครือขายผูติดเชื้อเอชไอวี/เอดส ประเทศไทย, โครงการศึกษาดัชนีชี้วัดการตีตราและการเลือกปฏิบัติผูติดเชื้อเอชไอวีเพื่อสนับสนุนการรณรงคดานสิทธิมนุษยชน,
(เชียงใหม: ดาราวรรณการพิมพ, 2553). หนา 140.
86 เรื่องเดียวกัน, หนา 155-156.
87 การสนทนากลุมผูติดเชื้อเอชไอวี ครั้งที่ 2, 27 มกราคม 2556
88 คณะกรรมการเครือขายองคกรพัฒนาเอกชนดานเอดส, เรื่องเดียวกัน,หนา 15, 114 - 117.
89 เรื่องเดียวกัน, ตาราง 132-133, หนา 171.