Page 260 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 260
258 ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
อาจออกระเบียบกำาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่มิให้นำาบทบัญญัติตามมาตรา ๒๓ วรรคหนึ่ง
(๓) มาใช้กับข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลที่อยู่ในความควบคุมดูแลของหน่วยงานอยู่แล้ว
๘) ภาคเอกชน องค์การพัฒนาเอกชน ภาคประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบ
๘.๑) ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย เห็นด้วยกับการมี (ร่าง) พระราชบัญญัติคุ้มครอง
ข้อมูลส่วนบุคคลฯ แต่ควรกำาหนดขั้นตอนให้สามารถปฏิบัติได้จริง ชัดเจน ไม่ยุ่งยาก ป้องกันการ
ฝ่าฝืนได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายโดยไม่จำาเป็น นอกจากนี้ สมาคมฯ ก็ได้พยายามกำากับดูแลสถาบันการเงิน
ที่เป็นสมาชิกให้เก็บรวบรวม ใช้ และเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลในความควบคุมด้วยความระมัดระวัง
และพบว่า นับแต่มีรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. ๒๕๔๐ และพ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งรับรองสิทธิในความเป็นอยู่
ส่วนตัว เป็นต้นมา ข้อร้องเรียนของลูกค้าของสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ เกี่ยวกับการละเมิด
ข้อมูลส่วนบุคคลมีจำานวนลดลง และได้มีการลงโทษผู้กระทำาละเมิดด้วยแล้ว
๘.๒) ผู้แทนสภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ แจ้งว่าการเก็บรวบรวม ใช้
และเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี และผู้ตรวจบัญชีเป็นไปตามพระราชบัญญัติ
ข้อมูลข่าวสารของราชการฯ และมีช่องทางให้สมาชิกตรวจสอบความถูกต้องได้อยู่แล้ว
๘.๓) ผู้แทนชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อ เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติ
คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ที่ผ่านมามีการละเมิด หรือใช้และเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึง
ของผู้ที่เป็นลูกหนี้เครดิต/สินเชื่อ อย่างไม่ระมัดระวัง เช่น ส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านี้
แก่บุคคล/บริษัทรับจ้างทวงหนี้ ซึ่งใช้วิธีติดตามและทวงหนี้อย่างไม่เหมาะสม ที่ผ่านมาชมรมฯ เคย
ผลักดันให้มีร่างพระราชบัญญัติการติดตามทวงถามหนี้อย่างเป็นธรรม พ.ศ. ... แต่ยังไม่มีบัญญัติ
เป็นกฎหมาย ระหว่างนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกแนวปฏิบัติในการติดตามทวงถามหนี้
ซึ่งธนาคารฯ ควรกวดขันให้มีการปฏิบัติตามแนวปฏิบัตินี้ด้วย รวมทั้งควรอำานวยความสะดวกแก่ลูกหนี้
หรือผู้เสียหายในการร้องเรียน เมื่อได้รับการปฏิบัติในการติดตามทวงหนี้อย่างไม่เหมาะสมจากสถาบัน
การเงิน ธุรกิจเครดิตหรือสินเชื่อที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-bank)
๘.๔) ผู้แทนสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย อธิบายว่าสมาคมฯ เป็นองค์กร
เอกชน อันเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ ก็มีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลของสมาชิกของสมาคม
เพื่อใช้ประโยชน์ภายในสำาหรับกิจการของสมาคมฯ หากร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล
ส่วนบุคคลฯ มีผลใช้บังคับ อาจมีผลกระทบต่อการทำางานของสมาคมฯ ได้ อย่างไรก็ตาม ตามร่าง
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ มาตรา ๕ (๒) ซึ่งระบุว่าบุคคลหรือนิติบุคคลที่ทำาการ
เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์ส่วนตนของบุคคลหรือนิติบุคคลนั้นเท่านั้น โดยมิให้ผู้อื่น
ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อผู้อื่น ไม่อยู่ในบังคับของร่างกฎหมายนี้
โดยนัยนี้ สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย จึงไม่อยู่ในบังคับของร่างกฎหมายนี้
๘.๕) ผู้แทนมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ให้ข้อมูลว่าแม้มีพระราชบัญญัติข้อมูล
ข่าวสารของราชการฯ แล้ว แต่ยังมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล เช่น หน่วยงานของรัฐปฏิเสธไม่ให้