Page 262 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 262

260   ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                  ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๑  ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗




                  โดยอาศัยสถานะของบุคคลเป็นเงื่อนไข มิใช่สันนิษฐานข้อเท็จจริงที่เป็นองค์ประกอบความผิดเพียง

                  บางข้อหลังจากที่โจทก์ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการกระทำาเกี่ยวกับความผิดที่จำาเลยถูกกล่าวหา และยังขัด
                  กับหลักนิติธรรมที่ว่า โจทก์ในคดีอาญาต้องมีภาระการพิสูจน์การกระทำาความผิดของจำาเลยให้ครบ

                  องค์ประกอบความผิด
                                   บทบัญญัติดังกล่าวเป็นการนำาบุคคลเข้าสู่กระบวนการดำาเนินคดีอาญาให้ต้อง

                  ตกเป็นผู้ต้องหาและจำาเลย ซึ่งทำาให้บุคคลดังกล่าวถูกจำากัดสิทธิและเสรีภาพ โดยไม่มีพยานหลักฐาน
                  ตามสมควรในเบื้องต้นว่า บุคคลนั้นได้กระทำาการหรือมีเจตนาอันเกี่ยวกับความผิดตามที่ถูกกล่าวหา

                                   บทบัญญัติดังกล่าวในส่วนที่สันนิษฐานความผิดอาญาของผู้ต้องหาและจำาเลย
                  โดยไม่ปรากฏว่าผู้ต้องหาหรือจำาเลยได้กระทำาการหรือมีเจตนาเกี่ยวกับความผิดนั้น จึงขัดต่อหลัก

                  นิติธรรมและขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๙ วรรคสอง “ในคดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า
                  ผู้ต้องหาหรือจำาเลยไม่มีความผิด”


                             ๓.๓.๓ ความเห็นของกรมการปกครอง
                                   กรมการปกครองมีหนังสือที่ มท ๐๓๐๗.๒/๗๒๓๓ ลงวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๗

                  ให้รายละเอียดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในความรับผิดชอบของกรมฯ ดังนี้

                                   ๑)  ง�นทะเบียนร�ษฎร มีหลักเกณฑ์ คือ

                                       ๑.๑)  จริงอยู่เสมอ และไม่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ รายได้ ประวัติ
                                                                                                ๒๐๑
                  อาชญากรรม การชำาระหรือไม่ชำาระภาษีอากร ข้อมูลอื่นตามที่คณะรัฐมนตรีหรือกฎหมายกำาหนด
                                       ๑.๒)  ผู้มีหน้าที่ เจ้าของประวัติ ผู้แทนหรือผู้อนุบาลเจ้าของประวัติ ผู้ได้รับ

                  มอบอำานาจ อาจขอให้นายทะเบียนคัดและรับรองเอกสารข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎร แก้ไขเพิ่มเติม
                                                                          ๒๐๒
                  ลบ หรือทำาให้ทันสมัยซึ่งข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎรให้ถูกต้องได้     ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่
                  เจ้าบ้าน ผู้มีชื่อ บุคคลหรือนิติบุคคลที่มีส่วนได้ส่วนเสีย จะขอให้นายทะเบียนตรวจ คัด หรือคัดและ
                  รับรองสำาเนารายการเอกสารทะเบียนราษฎรได้เฉพาะรายการจากเอกสารทะเบียนบ้าน ทะเบียน

                  คนเกิด ทะเบียนคนตายตามที่ปรากฏในเอกสารต้นฉบับหรือหลักฐานเอกสารของสำานักทะเบียน หรือ
                                                          ๒๐๓
                  แบบพิมพ์ที่กำาหนดกรณีเป็นระบบคอมพิวเตอร์ได้
                                       ๑.๓)  นายทะเบียนอาจจัดส่งสำาเนาเอกสารข้อมูลประวัติทะเบียนราษฎร
                  ให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐตามที่ร้องขอ  ผู้อำานวยการทะเบียนกลางอาจอนุญาตให้เชื่อมโยง

                  คอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎรให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของ






                  ๒๐๑  พระราชบัญญัติทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๑๒ และ ๑๓
                  ๒๐๒  พระราชบัญญัติทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๑๔
                  ๒๐๓  ระเบียบสำานักทะเบียนกลางว่าด้วยการจัดทำาทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๕ ข้อ ๑๒๔, ๑๒๕ และ ๑๒๗
   257   258   259   260   261   262   263   264   265   266   267