Page 259 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 259
257
ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
ให้ข้อสังเกตว่า สถานพยาบาลมีภารกิจดูแลเก็บรวบรวมและรักษาความลับเกี่ยวกับประวัติสุขภาพ
อันเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของคนไข้ในความรับผิดชอบ และมีหลักเกณฑ์ชัดเจนในการนำาข้อมูล
ไปใช้หรือเผยแพร่ เพื่อคุ้มครองสิทธิและรักษาผู้ป่วย เมื่อมีผู้ขอประวัติการรักษาผู้ป่วยโดยอ้าง
พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการฯ แล้วแพทย์ให้ไป ก็อาจขัดกับหลักการรักษาความลับ
ของผู้ป่วยทั้งแพทย์ก็อาจไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัตินี้
๗.๓) ผู้แทนกรมการปกครอง ให้ข้อมูลว่ากรมฯ ต้องรับผิดชอบข้อมูลส่วนบุคคล
จำานวนมากและมีความหลากหลาย จึงเห็นว่าคณะกรรมการตามร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล
ส่วนบุคคลฯ ควรมีผู้แทนจากกรมการปกครองด้วย
๗.๔) ผู้แทนสำานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค อธิบายว่าพระราชบัญญัติ
คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ ได้คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในมาตรา ๖๑ โดยกำาหนดโทษสำาหรับ
ผู้เปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกิจการของผู้ประกอบธุรกิจอันเป็นข้อเท็จจริงที่ตามปกติวิสัยของ
ผู้ประกอบธุรกิจจะพึงสงวน
๗.๕) ผู้แทนสำานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน แจ้งว่าสำานักงานฯ
ได้ให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามแนวทางในพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการฯ
อยู่แล้ว ส่วนการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการกำาหนดรายชื่อบุคคล คณะบุคคล นิติบุคคล
หรือองค์กรที่เป็นผู้มีการกระทำาอันเป็นการก่อการร้าย ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม
การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย พ.ศ. ๒๕๕๖ นั้น กฎหมายนี้มีหลักประกันให้ความคุ้มครอง
ข้อมูลดังกล่าว โดยกำาหนดว่ารายชื่อที่กำาหนดนั้นให้มาจากมติของหรือประกาศภายใต้คณะมนตรี
ความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (มาตรา ๔) และคำาสั่งศาล (มาตรา ๕)
๗.๖) ผู้แทนสำานักงานตำารวจแห่งชาติ ให้ข้อมูลว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความ
รับผิดชอบของสำานักงานตำารวจแห่งชาติ (สตช.) ได้แก่ ประวัติอาชญากร ซึ่งการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม
รวมทั้งการลบข้อมูลประวัติอาชญากรให้เป็นปัจจุบันเป็นความรับผิดชอบของกองทะเบียนประวัติ
อาชญากร
ผู้แทนจากสำานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการได้อธิบาย
เพิ่มเติมว่า ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการฯ หากจำาเลยหรือผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าของ
ข้อมูลส่วนบุคคล เห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนไม่ถูกต้อง ให้มีสิทธิยื่นคำาขอเป็นหนังสือ
ให้ สตช. แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูลนั้นได้ หาก สตช. ไม่ดำาเนินการหรือดำาเนินการล่าช้า ผู้นั้น
มีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ หรือมีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการ
วินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามลำาดับ
๗.๗) ผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษและสำานักข่าวกรองแห่งชาติ เห็นว่า
พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการฯ และพระราชบัญญัติกรมสอบสวนคดีพิเศษฯ ไม่ขัดแย้งกัน
นอกจากนี้ พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการฯ มาตรา ๒๒ บัญญัติให้สำานักข่าวกรองแห่งชาติ