Page 217 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 217

215
                                                   ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                                                   ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๑  ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗




                                      กลุ่มที่ ๑  เป็นกลุ่มผู้เสียหายหรือเหยื่ออาชญากรรมซึ่งจะได้รับการช่วยเหลือ

                     จากรัฐ ในลักษณะเป็นสวัสดิการสังคมหรือการเยียวยาเบื้องต้นซึ่งไม่เท่ากับความเสียหายที่สูญเสียไป
                                      กลุ่มที่ ๒  เป็นกลุ่มจำาเลยในคดีอาญา

                                      ที่ผ่านมากรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพได้พยายามแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติ
                     ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ เช่น

                     การขยายอายุความจาก ๑ ปี เป็น ๒ ปี เป็นต้น แต่เนื่องจากกระบวนการนิติบัญญัติของประเทศไทย
                     มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร

                                      (๒)  กรณีที่ประชาชนส่วนใหญ่มาใช้สิทธิเมื่อพ้นกำาหนด ๑ ปีไปแล้ว กรมคุ้มครอง
                     สิทธิและเสรีภาพได้พยายามให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ หากประชาชนมายื่นคำาขอที่หน่วยงานใด

                     ก็ตามของกระทรวงยุติธรรม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจะเริ่มนับอายุความให้ทันที และมีการ
                     ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ประเด็นเรื่องประมาทในความผิดตามกฎหมายจราจร

                     ซึ่งผู้เสียหายสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่าย
                     แก่จำาเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ ได้นั้น เนื่องจากมีผู้ใช้สิทธิยื่นคำาขอเป็นจำานวนมากและส่วนใหญ่

                     ผู้เสียหายจะได้รับค่าชดเชยตามกฎหมายว่าด้วยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งมากกว่าเงินที่จะ
                     ได้รับตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญา

                     พ.ศ. ๒๕๔๔ จึงทำาให้ไม่อาจใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน
                     และค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ ได้อีก กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจึงเห็นว่า

                     ควรจะต้องตัดความผิดฐานประมาทเกี่ยวกับการประสบภัยจากรถออกไป
                                      (๓)  ประเด็นการที่จะเพิ่มฐานความผิดท้ายพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย

                     และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญา พ.ศ.๒๕๔๔ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
                     รับผิดชอบการแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือ

                     การลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำายีศักดิ์ศรี (CAT) และอนุสัญญาระหว่างประเทศ
                     ว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย (CED) ซึ่งถ้าใช้วิธีแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาและ

                     ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาก็จะต้องมีการเพิ่มเติมฐานความผิดท้ายพระราชบัญญัติ
                     ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ ให้สอดคล้อง

                     กับอนุสัญญาทั้งสองฉบับด้วย แต่หากมีการจัดทำาเป็นพระราชบัญญัติขึ้นใหม่โดยเฉพาะ การเยียวยา
                     จะมีความครอบคลุมมากกว่า อย่างไรก็ตาม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพยังมิได้พิจารณาและยัง

                     ไม่ทราบว่าหน่วยงานใดจะเป็นผู้ทำาหน้าที่สอบสวนกรณีเกิดการกระทำาทรมานหากมีกฎหมายเฉพาะ
                     ในเรื่องนี้


                                ๓.๒.๒ ผู้เสียหายซึ่งได้รับการเยียวยาตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม
                     การค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ จะไม่ถูกตัดสิทธิการได้รับค่าตอบแทนตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทน

                     ผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ โดยการเยียวยาตามกฎหมาย
   212   213   214   215   216   217   218   219   220   221   222