Page 216 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 216

214    ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                  ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๑  ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗




                                   (๒)  จัดตั้งศูนย์เยียวยาเหยื่ออาชญากรรม เพื่อลงพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย

                  โดยดำาเนินการแจ้งสิทธิเกี่ยวกับพระราชบัญญัติดังกล่าว รับคำาขอของผู้เสียหายหรือทายาท รวมทั้ง
                  จ่ายเงินค่าตอบแทนให้แก่ผู้เสียหายหรือทายาท

                                   (๓)  แต่งตั้งให้สำานักงานยุติธรรมจังหวัดทั่วประเทศ เป็นสถานที่รับคำาขอ
                  นอกเหนือจากสำานักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำาเลยในคดีอาญา

                                   (๔)  ประสานความร่วมมือกับสำานักงานตำารวจแห่งชาติ เพื่อให้พนักงานสอบสวน
                  แจ้งสิทธิให้ผู้เสียหายทราบว่า มีสิทธิตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและ

                  ค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ โดยสำานักงานตำารวจแห่งชาติได้มีหนังสือกำาหนดแนวทาง
                  ปฏิบัติในการแจ้งสิทธิผู้เสียหายในคดีอาญา แจ้งต่อพนักงานสอบสวนทั่วประเทศแล้ว

                                   (๕)  จัดเจ้าหน้าที่ของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพไปปฏิบัติงานประจำาที่สถานี
                  ตำารวจในส่วนภูมิภาค จำานวน ๔๕ สถานี เพื่อให้รับคำาขอของผู้เสียหายหรือทายาท เมื่อผู้เสียหาย

                  ได้มาแจ้งความตามสถานีตำารวจดังกล่าว

                             ๓.๑.๓ กรณีการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติ ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน

                  และค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญา พ.ศ.๒๕๔๔ เนื่องจากพระราชบัญญัติดังกล่าว ได้มีผลบังคับใช้
                  มาเป็นเวลา ๑๓ ปี มีบทบัญญัติบางมาตราที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเห็นว่า ควรปรับแก้เพื่อให้

                  พระราชบัญญัติดังกล่าวสามารถให้ความคุ้มครองช่วยเหลือประชาชนที่เป็นธรรมมากยิ่งขึ้น เช่น
                                   (๑)  ขยายระยะเวลาการยื่นคำาขอรับค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและ

                  ค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญา จากกำาหนดระยะเวลา ๑ ปี เป็น ๒ ปี
                                   (๒)  เพิ่มฐานความผิด เช่น ความผิดฐานชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ หรือความผิด

                  ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ในพระราชบัญญัติค่าตอบแทน
                  ผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งขณะนี้การปรับแก้อยู่

                  ระหว่างการร่างแก้ไขเพิ่มเติม


                        ๓.๒  การหารือเพิ่มเติมกับผู้แทนกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
                             คณะอนุกรรมการฯ ในคราวประชุม ครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๗

                  ได้ร่วมประชุมหารือกับผู้แทนกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ สรุปผลการหารือได้ ดังนี้

                             ๓.๒.๑ สาระสำาคัญและแนวทางการแก้ไขพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และ

                  ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญา พ.ศ.๒๕๔๔

                                   (๑)  กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ รับผิดชอบพระราชบัญญัติค่าตอบแทน
                  ผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งมีผลบังคับใช้มาเป็นเวลา

                  ประมาณ ๑๓ ปี เจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้ คือ การให้ความช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นสำาหรับ
                  คน ๒ กลุ่ม
   211   212   213   214   215   216   217   218   219   220   221