Page 140 - โครงการศึกษาวิจัย เรื่อง สิทธิชุมชนและผลกระทบโครงการพัฒนาภาคใต้
P. 140

๑๒๖







                  และรางรถไฟ  โดยแบ่งการพัฒนาโครงการเป็น  ๒ ส่วน  คือ (๑) ส่วนที่  ๑ ประกอบด้วย การก่อสร้าง
                  ท่าเทียบเรือสินค้าคอนเทนเนอร์ ๒ ท่า ความยาวหน้าท่า ๗๕๐ เมตร และท่าเทียบเรือบริการ ความยาว

                  ๒๑๒ เมตร ลานกองสินค้าตู้ ขนาดกว้าง ๒๘๐ เมตร ยาว ๓๕๐ เมตร อาคารต่าง ๆ รวม ๒๖ อาคาร

                  ถนนภายในท่าเทียบเรือ และลานจอดรถบรรทุกสินค้า ระบบสาธารณูปโภค สะพาน และถนนเข้าสู่
                  ท่าเทียบเรือ การขุดลอกร่องน้ํา แอ่งกลับเรือและที่จอดเรือบริเวณหน้าท่า ทางรถไฟเข้าท่าเทียบเรือ

                  และลานขนส่งตู้สินค้าจากรถไฟ (๒) สําหรับส่วนที่  ๒ เป็นลานกองเก็บตู้สินค้าพื้นที่ กว้าง ๒๘๐ เมตร

                  ยาว ๓๕ เมตร และระบบสาธารณูปโภคเพิ่มเติม
                            -  การพัฒนาระยะที่ ๒ จะเกิดขึ้นหลังจากท่าเรือระยะที่ ๑ เปิดใช้งานไปแล้ว ๖ ปี

                  ต้องก่อสร้างเพิ่มด้วยการถมทะเลส่วนปลายด้านที่อยู่ใกล้ชายฝั่งเพิ่ม ๒๔๐ ไร่ เป็นรูปตัว L  เพื่อทําเป็น

                  ท่าเทียบเรือความยาวหน้าท่า ๕๐๐ เมตร พร้อมลานกองตู้สินค้าและอาคารประกอบ
                            -  การพัฒนาระยะที่ ๓ ทําต่อจากการพัฒนาระยะที่ ๒ โดยก่อสร้างท่าเทียบเรือ

                  ด้านทิศตะวันออกของท่าเรือเดิมหลังเปิดใช้งานแล้ว ๑๒ ปี โดยให้มีความยาวหน้าท่า ๑,๐๐๐ เมตร

                  และจะมีการถมทะเลเพิ่มเติมอีก ๔๕๐ ไร่ รวมทั้งมีการขยายร่องน้ําและแอ่งกลับลําเรือจาก ๑๘๐ เมตร
                  เป็น ๓๐๐ เมตร และความลึกร่องน้ําเป็น ๑๕ เมตร

                             ทั้งนี้การจัดทํารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการไม่ได้มีการ

                  จัดทําหมดทั้ง ๓ ระยะ ที่มีการถมทะเลรวมกว่า ๙๘๒ ไร่ แต่เป็นการจัดทําเฉพาะการพัฒนาโครงการใน
                  ระยะที่ ๑ ที่มีการถมทะเลเพียงพื้นที่ ๒๙๒ ไร่ เท่านั้น อีกทั้งยังไม่มีการประเมินผลกระทบต่อกิจกรรม

                  ต่าง ๆ ที่มีการเชื่อมโยงกับการพัฒนาท่าเรือน้ําลึกปากบารา เช่น แหล่งหินและทรายที่จะนํามาใช้ในการ

                  ถมทะเล เป็นต้น
                                ปัจจุบันโครงการท่าเรือน้ําลึกปากบารา ยังอยู่ในระหว่างการจัดทํารายงานการ

                  ประเมินผลกระทบทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (EHIA) เพื่อนําเสนอต่อคณะกรรมการองค์กรอิสระด้าน

                  สิ่งแวดล้อมและสุขภาพให้ความเห็นประกอบการพิจารณา และอีกทั้งต้องนําเสนอต่อคณะกรรมการ
                  อุทยานแห่งชาติเพื่อทําการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติเภตราจํานวน ๔,๗๓๔ ไร่

                                ๒)  โครงการนิคมอุตสาหกรรมละงู ๑๕๐,๐๐๐ ไร่

                             จากการลงสํารวจแนวเขตพื้นที่ซึ่งมีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรมละงู
                  ๑๕๐,๐๐๐ ไร่ พบว่าพื้นที่ดังกล่าวน่าจะตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของถนนสายปะเหลียน–สตูล ครอบคลุม

                  อาณาบริเวณ ๔ อําเภอ คือ อําเภอละงู เกือบเต็มพื้นที่ยกเว้นบ้านวังสายทอง ตําบลน้ําผุด  ตําบลปาล์ม

                  พัฒนา อําเภอมะนังบางส่วน ตําบลอุไดเจริญ อําเภอควนกาหลงบางส่วน และบ้านสวนเทศ อําเภอท่าแพ
                  ปัจจุบันโครงการนี้ยังอยู่ในขั้นการเป็นกรอบแนวคิดในรายงานการศึกษาเพื่อรองรับการพัฒนา

                  อุตสาหกรรมจากการพัฒนาท่าเรือน้ําลึกปากบารา
   135   136   137   138   139   140   141   142   143   144   145