Page 136 - โครงการศึกษาวิจัย เรื่อง สิทธิชุมชนและผลกระทบโครงการพัฒนาภาคใต้
P. 136
๑๒๒
อาจจะเสียหายถึงหมดอาชีพไปเลย การกําหนดแบบนี้มีกลไกในการทํางาน และกลไกในการแบ่งปัน
ผลประโยชน์ตั้งแต่ส่วนกลางกรุงเทพลงมาถึงสงขลา จึงควรมีการศึกษาวิจัยเพื่อให้เห็นถึงกลุ่ม
ผลประโยชน์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการผลักดันแผนและโครงการต่าง ๆ ภายใต้แผนพัฒนาภาคใต้
๓) จัดทําประเด็นร่วมเรื่องอาหาร ที่ดิน ประมง และหยุดอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเรื่องพื้นที่
แหล่งผลิตอาหารที่อ่าวจะนะ หาดสวนกง ให้เป็นแหล่งผลิตอาหารให้กับชาวสงขลา และรวมตัวกันเป็น
เครือข่ายรักษ์สงขลา เพื่อนําปัญหาทั้งหมดไปนําเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัด
๔) การมีส่วนร่วมในการจัดทําและกําหนดทิศทางการพัฒนาและแผนพัฒนาของชุมชน
ตนเองจังหวัดสงขลา ชาวบ้านไม่ต้องการให้สงขลาพัฒนาเป็นเมืองอุตสาหกรรมหนักเหมือนมาบตาพุด
จึงต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการทําและกําหนดทิศทางแผนของจังหวัดให้เป็นแหล่งผลิตอาหารของ
ประเทศและโลก เป็นเมืองการศึกษาและวัฒนธรรม เมืองที่มีผังเมืองชัดเจน รวมทั้งจังหวัดหรือรัฐต้อง
สนับสนุนทุนวิจัยให้ชุมชน ปัจจุบันการจัดทําแผนพัฒนาจังหวัดสงขลา ทั้งระยะ ๔ ปี ๑๐ ปี และ ๒๐ ปี
ได้มีการดําเนินการไปเกือบเสร็จสิ้นแล้ว โดยที่ประชาชนไม่มีส่วนร่วมเลย ซึ่งน่าจะมีผลกระทบต่อ
ชาวบ้าน ในกรณีนี้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ควรจะเป็นตัวแทนชาวบ้านในการฟ้องร้องให้
หยุดแผนพัฒนาไว้ก่อน และควรสร้างกลไกให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมาร่วมกันในการติดตามทั้งใน
ระดับจังหวัดและระดับชาติ
๕.๔ กรณีศึกษาจากกรณีร้องเรียนจังหวัดสตูล
๕.๔.๑ สตูล ประตูเมืองอุตสาหกรรมและสะพานเศรษฐกิจพลังงาน
จังหวัดสตูลเดิมไม่ได้เป็นพื้นที่เป้าหมายของการพัฒนาที่ถูกบรรจุไว้ในแผนพัฒนา
ชายฝั่งทะเลภาคใต้ แต่ภายหลังจากที่มีเหตุการณ์สึนามิใน ปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ทําให้มีการทบทวนเส้นทาง
ยุทธศาสตร์พลังงานระหว่างอันดามันและอ่าวไทย หลังจากนั้นเป็นต้นมาแนวสะพานเศรษฐกิจหรือ
แลนด์บริดจ์ สตูล–สงขลา จึงได้รับการผลักดันเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์พลังงานใหม่ โดยโครงการ
ประกอบด้วยท่าเรือน้ําลึกสองฝั่งทะเล รวมถึงระบบขนส่งและโครงข่ายคมนาคมที่จะเชื่อมต่อระหว่างกัน
ในรายงานโครงการสํารวจออกแบบเพื่อการก่อสร้างท่าเรือปากบารา โดย บริษัท เอทีที คอนซัลแตนท์
จํากัด ร่วมกับ ทีม คอนซัลติ้งเอนจิเนียริ่ง จํากัด และ บริษัท แปซิฟิค คอนซัลแตนท์ จํากัด ภายใต้การ
จัดจ้างของกรมการขนส่งทางน้ําและพาณิชย์นาวี (กรมเจ้าท่า ในปัจจุบัน) รายงานได้จัดทําแล้วเสร็จในปี
พ.ศ. ๒๕๕๒ ซึ่งมีการกําหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาสะพานเศรษฐกิจสงขลา-สตูล โดยที่รัฐบาลจะต้อง
สร้างระบบโครงข่ายการคมนาคมขนส่งเชื่อมระหว่างท่าเรือน้ําลึกปากบารากับท่าเรือสงขลา ดังนี้