Page 43 - คู่มือการทำความเข้าใจ เรื่อง สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
P. 43

คู่มือ การทำาความเข้าใจ เรื่อง สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง 41







                     ที่มา :    http://www.constitutionalcourt.or.th/index.php?option=com_docman&task=cat_view&gid=145

                                &Itemid=94&lang=th&limitstart=30
                                จากตัวอย่างข้างต้นแสดงให้เห็นถึงการสร้างมาตรฐานสิทธิมนุษยชนไทยในเรื่องความ

                     เท่าเทียมกันทางเพศ กรณีชื่อสกุลของหญิงที่สมรสแล้ว โดยหลักดังกล่าวก็ได้นำามาเป็นระเบียบวิธี
                     ปฏิบัติในระบบทะเบียนและสังคมไทยต่อมา




                                                            ๑.๒

                                                        ศ�ลยุติธรรม

                            ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ศาลยุติธรรมมีอำานาจพิจารณา

                     พิพากษาคดีทั้งปวง เว้นแต่คดีที่รัฐธรรมนูญนี้หรือกฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำานาจของศาลอื่น (มาตรา

                     ๒๑๘) และในมาตรา ๒๑๙ ระบุว่า ศาลยุติธรรมมีสามชั้น คือ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา
                     เว้นแต่ที่มีบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นในรัฐธรรมนูญนี้หรือตามกฎหมายอื่น

                            ศาลฎีกามีอำานาจพิจารณาพิพากษาคดีที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายบัญญัติให้เสนอต่อศาล
                     ฎีกาได้โดยตรง และคดีที่อุทธรณ์หรือฎีกาคำาพิพากษาหรือคำาสั่งของศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์

                     ตามที่กฎหมายบัญญัติ เว้นแต่เป็นกรณีที่ศาลฎีกาเห็นว่าข้อกฎหมายหรือข้อเท็จจริงที่อุทธรณ์หรือ
                     ฎีกานั้นจะไม่เป็นสาระอันควรแก่การพิจารณา ศาลฎีกามีอำานาจไม่รับคดีไว้พิจารณาพิพากษาได้

                     ทั้งนี้ ตามระเบียบที่ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกากำาหนด

                            ศาลฎีกามีอำานาจพิจารณาและวินิจฉัยคดีที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งและการเพิกถอนสิทธิ
                     เลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา และให้ศาลอุทธรณ์

                     มีอำานาจพิจารณาและวินิจฉัยคดีที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งและการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งในการเลือก
                     ตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น  ทั้งนี้ วิธีพิจารณาและวินิจฉัยคดีให้เป็นไปตามระเบียบ

                     ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกากำาหนด โดยต้องใช้ระบบไต่สวนและเป็นไปโดยรวดเร็ว
                            ให้มีแผนกคดีอาญาของผู้ดำารงตำาแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา โดยองค์คณะผู้พิพากษา

                     ประกอบด้วย ผู้พิพากษาในศาลฎีกาซึ่งดำารงตำาแหน่งไม่ต่ำากว่าผู้พิพากษาศาลฎีกาหรือ

                     ผู้พิพากษาอาวุโสซึ่งเคยดำารงตำาแหน่งไม่ต่ำากว่าผู้พิพากษาศาลฎีกาจำานวนเก้าคน ซึ่งได้รับเลือก
                     โดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาโดยวิธีลงคะแนนลับ และให้เลือกเป็นรายคดี

                            อำานาจหน้าที่ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำารงตำาแหน่งทางการเมืองและวิธีพิจารณา
                     คดีอาญาของผู้ดำารงตำาแหน่งทางการเมือง ให้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ และใน

                     พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำารงตำาแหน่งทางการเมือง

                            ศาลยุติธรรมโดยเฉพาะศาลอาญานั้นมีบทบาทสำาคัญในการปกป้องและคุ้มครองสิทธิ
                     มนุษยชนกระบวนการยุติธรรมในการปกครองสังคมระบอบประชาธิปไตย ยึดมั่นหลักนิติธรรม
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48