Page 174 - คู่มือการทำความเข้าใจ เรื่อง สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
P. 174

172 คู่มือ การทำาความเข้าใจ เรื่อง สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง




                         ในประเทศไทย พระราชกำาหนดว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘
                  ได้บังคับใช้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๕๔๘ ข้อเท็จจริงนี้ได้นำาเสนอไปที่

                  คณะกรรมการอนุสัญญาว่าด้วยเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติทุกรูปแบบ (CERD)  ในปีพ.ศ. ๒๕๕๕
                  คณะกรรมการได้ให้ข้อเสนอแนะกับรัฐบาลไทยในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายพิเศษในจังหวัด

                  ชายแดนภาคใต้  ในเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งในช่วงเวลานั้น รัฐบาลได้ประกาศต่ออายุ
                  การบังคับใช้พระราชกำาหนดดังกล่าว  มูลนิธิผสานวัฒนธรรมและศูนย์ทนายความมุสลิมได้จัดทำา
                  จดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี สององค์กรนี้ได้ทำางานส่งเสริมการเข้าถึงความยุติธรรมในพื้นที่

                  จังหวัดชายแดนภาคใต้มาอย่างยาวนาน  และจดหมายเปิดผนึกนี้ก็ถือเป็นการส่งสัญญาณถึง
                  ข้อกังวลด้านสิทธิมนุษยชน รวมถึงส่งข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการ CERD สู่นายกรัฐมนตรี

                  เพื่อให้ทบทวนการต่ออายุการบังคับกฎหมายดังกล่าว โดยมีเนื้อหาว่า






                           “  สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในท้องที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี

                     นับแต่วันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๔๘ และมีการประกาศขยายระยะเวลาประกาศฯในพื้นที่ดังกล่าว ยกเว้น
                     อำาเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี ที่ประกาศยกเลิกในปีพ.ศ. ๒๕๕๔ จนถึงปัจจุบันต่อเนื่องกันเป็นจำานวน

                     ๓๐ ครั้ง  โดยประกาศฯ ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๕ เพื่อความจำาเป็นต้องใช้มาตรการใน
                     การป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและดูแลความ
                     ปลอดภัยของประชาชนต่อไป ซึ่งประกาศดังกล่าวจะครบกำาหนดในวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๕ นี้

                             มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนที่

                     ได้ดำาเนินโครงการส่งเสริมการเข้าถึงความยุติธรรมของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่าง
                     ต่อเนื่องมากว่า ๕ ปี โดยให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายแก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการ
                     บังคับใช้กฎหมายพิเศษด้านความมั่นคงในพื้นที่ อันได้แก่ พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ. ๒๔๕๗ และ

                     พระราชกำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ เป็นต้น  ซึ่งได้พบปัญหาที่เกิด
                     จากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้หลายประการ
                     และมีความเห็นว่า รัฐบาลควรมีการพิจารณาทบทวนนโยบายการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความ

                     ร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างจริงจัง เพื่อนำาไปสู่การแก้ไขปัญหาความไม่สงบได้อย่างมี
                     ประสิทธิภาพและประสิทธิผล อันสอดคล้องกับข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริม
                     หลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้  โดย

                     ยุทธศาสตร์ด้านการบังคับใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ได้เสนอให้มีการพิจารณายกเลิกกฎหมาย
                     ความมั่นคง เช่น ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดน

                     ภาคใต้ และใช้มาตรการอื่นที่มีประสิทธิภาพแทน
   169   170   171   172   173   174   175   176   177   178   179