Page 174 - รายงานการศึกษาเรื่องโทษประหารชีวิตในประเทศไทย
P. 174
และงานวิจัยเรื่อง “เส้นทางชีวิตของนักโทษประหาร” ของสุมนทิพย์ จิตสว่าง (๒๕๕๖)
ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงเส้นทางชีวิตของนักโทษประหารก่อนกระทำาผิด ขณะกระทำาผิด
และขณะต้องโทษประหารชีวิต เพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อการกระทำาผิดของนักโทษประหาร
และเพื่อศึกษาถึงความเกรงกลัวต่อโทษประหารชีวิตของนักโทษประหาร โดยเป็นการวิจัย
เชิงคุณภาพ คัดเลือกนักโทษประหารกลุ่มตัวอย่างเพศชาย ๖ คน และเพศหญิง ๔ คน รวม ๑๐ คน
ด้วยวิธีการเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) โดยใช้แบบสัมภาษณ์แบบเจาะลึกเป็น
เครื่องมือในการศึกษา
ผลการศึกษาพบว่า นักโทษประหารกลุ่มตัวอย่างมีเส้นทางชีวิตก่อนเป็นนักโทษประหาร
คือ มีภูมิหลังเป็นบุคคลที่มีสถานภาพทางสังคมไม่สูงมากนัก ส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับ
ประถมศึกษา มีรายได้ไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท มีเส้นทางชีวิตขณะกระทำาผิด คือ กลุ่มตัวอย่าง
ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการกระทำาผิดที่ไม่ได้มีลักษณะเป็นอาชญากรอาชีพ โดยกลุ่มตัวอย่าง
เกือบทั้งหมดกระทำาผิดเป็นครั้งแรกหากแต่เดินเข้าสู่เส้นทางชีวิตของการเป็นนักโทษประหาร
เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่กดดันหล่อหลอมให้ประกอบอาชญากรรม คือ การคบเพื่อน การเรียนรู้
ทางสังคม การควบคุมตัวเองต่ำา รวมทั้งการไม่เกรงกลัวต่อโทษประหารขณะกระทำาผิด
สำาหรับเส้นทางชีวิตขณะต้องโทษพบว่านักโทษประหารกลุ่มตัวอย่างมีความเกรงกลัว
ต่อโทษประหารชีวิต ประสบความเครียดขณะต้องโทษจำาคุกเพื่อรอการประหาร หรืออภัยโทษ
และประสบปัญหาครอบครัว ประสบปัญหาภายหลังต้องโทษประหารชีวิต
จากผลการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับนักโทษประหารชีวิตของประเทศไทยดังกล่าวข้างต้น
จึงแสดงให้เห็นว่านักโทษประหารของประเทศไทยส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่ไม่ใช่อาชญากรโดยกมลสันดาน
หากแต่มีพฤติกรรมการกระทำาผิดที่พลั้งพลาด หรือความไม่รู้กฎหมาย ทำาให้ถูกทนายความ
หรือผู้อื่นหลอกจนกระทั่งต้องโทษประหารชีวิต
ดังนั้น หากผู้ต้องโทษประหารชีวิตส่วนหนึ่งในประเทศไทย ไม่ได้มีความเป็นอาชญากร
โดยกมลสันดานอย่างแท้จริง หรือมีความเป็นอาชญากรโดยกำาเนิด เป็นบุคคลที่ไม่ได้ก่อให้เกิด
อันตรายต่อสังคมอย่างแท้จริง จึงมีความจำาเป็นที่จะต้องให้โอกาสแก่ผู้กระทำาผิดดังกล่าว
ได้มีโอกาสในการแก้ไขฟื้นฟู เพื่อกลับตนเป็นคนดี เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าของประเทศชาติ
ต่อไป ซึ่งแนวทางในการใช้โทษประหารชีวิตสำาหรับผู้กระทำาผิดดังกล่าวอาจเป็นหนทางที่
ไม่ถูกต้องเพราะการประหารชีวิตผู้กระทำาผิดดังกล่าว อาจทำาให้ผู้กระทำาผิดไม่มีโอกาสที่จะได้แก้ไข
ฟื้นฟูตนเองได้อีกเลย ดังนั้น แนวทางที่เหมาะสมในการปฏิบัติต่อผู้ที่กระทำาผิดที่ไม่ได้
มีความเป็นอาชญากรอย่างแท้จริง คือ การยกเลิกโทษประหารชีวิต หรือการเปลี่ยนแปลง
โทษประหารชีวิตเป็นโทษจำาคุก เพื่อให้นักโทษประหารได้มีโอกาสกลับตนเป็นคนดีของสังคม
อีกครั้ง
โทษประหารชีวิตในประเทศไทย 161