Page 39 - รายงานโครงการศึกษา เรื่อง การจัดทำตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนเบื้องต้นตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
P. 39

38


       รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง
       การจัดทำาตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนเบื้องต้นตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน


                         โดยที่สิทธิมนุษยชนตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนจัดทำาขึ้นมุ่งที่จะรวบรวมหลักการ
                  ที่สร้างปทัสถานทางกฎหมาย  แต่อย่างไรก็ตาม ถ้อยคำาในปฏิญญาสากลก็ยังมีความคลุมเครืออยู่มาก
                  ความไม่ชัดเจนของถ้อยคำาของเอกสารที่ต้องการสร้างปทัสถานทางกฎหมาย เป็นข้อจำากัดที่ถือว่า

                  เป็นปกติ เนื่องจากหลักการทางกฎหมายต้องการให้ใช้ได้ทั่วไป จึงจำาเป็นที่จะต้องใช้ถ้อยคำากว้างๆ
                  เพื่อให้ครอบคลุมลักษณะต่างๆ ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นทั้งตราสารทางกฎหมายระหว่างประเทศ และ
                  ตราสารทางกฎหมายภายใน เช่น รัฐธรรมนูญ เป็นต้น

                         ในคู่มือตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนของสำานักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

                  ได้แนะนำาว่า  ในขั้นตอนแรก ควรจะต้องมีการกำาหนดสาระแห่งสิทธิ (หรือมิติของสิทธิมนุษยชน)
                  การจัดทำาตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนจึงจำาเป็นที่จะต้องกำาหนด “แหล่งที่มา” เพื่ออ้างอิงสาระแห่งสิทธิ
                  (Right Attributes) เพื่อให้ครอบคลุม และเป็นมาตรฐานที่ยอมรับได้

                         ดังได้กล่าวในบทที่สอง  แม้ว่าโดยชื่อ “Declaration” หรือ “ปฏิญญา” ไม่มีผลผูกพันทาง

                  กฎหมายระหว่างประเทศ  แต่สาระสำาคัญของสิทธิที่รับรองโดยปฏิญญาสากลมีฐานะเป็นจารีต
                  ประเพณีระหว่างประเทศ  ดังนั้น ในบทนี้จะวิเคราะห์พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนตามปฏิญญาสากล
                  ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ว่ามีเนื้อหาสาระอย่างไร


                         คณะผู้ศึกษาได้แบ่งแหล่งที่มาของพันธกรณีที่พัฒนามาจากปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
                  สองลำาดับ คือ แหล่งที่มาหลัก และแหล่งที่มารอง  และเนื่องจากอุดมการณ์ทางการเมืองระหว่าง
                  ประเทศที่มีผลทำาให้ความเห็นด้านสิทธิมนุษยชนแตกต่างกัน นับตั้งแต่การจัดทำาร่างปฏิญญาสากล

                  ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน  ต่อมา เมื่อสมัชชาใหญ่สหประชาชาติได้รับรองปฏิญญาสากลว่าด้วย
                  สิทธิมนุษยชนแล้ว  จึงได้มีการจัดทำาสนธิสัญญาสิทธิมนุษยชนสำาคัญสองฉบับเพื่อลดความกดดัน

                  ทางการเมือง คือ กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International
                  Covenant on Civil and Political Rights : ICCPR)  และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทาง
                  เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (International Covenant on Economic, Social and Cultural

                  Rights : ICESCR)  ตราสารทั้งสองฉบับได้รับการยอมรับว่าเป็นตราสารสิทธิมนุษยชนระหว่าง
                  ประเทศในการกำาหนดพันธกรณีหลัก คณะผู้ศึกษาจึงใช้ข้อบทของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
                  ประกอบกับข้อบทตามกติการะหว่างประเทศสองฉบับนี้  เป็นพื้นฐานทางกฎหมายในการกำาหนด

                  พันธกรณีของประเทศไทยในการพิจารณาพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนตามปฏิญญาสากลว่าด้วย
                  สิทธิมนุษยชน


                         ส่วนที่มาลำาดับรอง  คณะผู้ศึกษาจะพิจารณาจากมาตรฐานระหว่างประเทศที่พัฒนาขึ้น
                  โดยสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ  คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม  คณะมนตรีสิทธิมนุษยชน  และ
                  คณะกรรมการประจำาสนธิสัญญา (Treaty Bodies) เช่น ข้อมติ (Resolutions) ข้อคิดเห็นร่วมอันสำาคัญ

                  (General Comments) และคำาวินิจฉัย (Decisions) เป็นต้น
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44