Page 614 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 614
ข้อจ ากัดข้างต้น สอดคล้องกับค าให้สัมภาษณ์ของอนุกรรมการ โดยพบว่ากระบวนการ
เบิกจ่ายที่ล่าช้า ท าให้บางครั้งการท างานต้องมีการส ารองเงินจ่ายก่อนล่วงหน้า
่
อนุกรรมการ “การเบิกจ่ายฝายเลขาเป็นคนท าให้ ซึ่งบางทีมีงานเร่งเราก็จ่ายไปก่อน บางทีผ่านไป
เดือนนึงถึงได้เงินคืน แล้วคุณคิดว่าเบี้ยเลี้ยง 270 บาทต่อวันเพียงพอหรือไม่ คือตนเอง
่
เทียบเท่าระดับ 10 นะ แล้วเวลาลงไปกับฝายเลขาฯ แล้วมีข้าราชการไปด้วย เราเป็นผู้ใหญ่
เราก็ต้องเลี้ยง ลงพื้นที่เมื่อใดก็เจ๊งทุกที”
“ระบบการเบิกจ่ายงบประมาณส่วนใหญ่ก็อิงกับระบบราชการ ที่มันมีการตรวจสอบใน
ระบบราชการอยู่แล้ว ซึ่งอนุกรรมการก็มีแค่ค่าเดินทาง ค่าที่พัก กรณีค้าง แล้วค่าเบี้ย
ประชุมก็ตามระเบียบ”
ผลการศึกษาวิจัยยังพบว่า ค าให้สัมภาษณ์ของทั้ง 2 กลุ่มข้างต้นเป็นไปในทิศทาง
เดียวกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ ที่ให้ความเห็นว่าการเบิกจ่ายงบประมาณ เช่น การยืมเงิน คืนเงิน ในกรณี
การลงพื้นที่ เบี้ยประชุมของอนุกรรมการ ฯลฯ ยังมีระบบการเบิกจ่ายเหมือนราชการ มีความล่าช้า
ไม่สอดคล้องกับลักษณะงาน หากมีภารกิจด่วน เช่น การลงพื้นที่ตรวจสอบเร่งด่วน ต้องส ารอง
จ่ายไปก่อน ดังค าให้สัมภาษณ์
เจ้าหน้าที่ “การท างานต้องอาศัยงบประมาณ ที่นี้บางทีงบประมาณติดขัด แต่ละอย่างเราไม่สามารถ
เบิกจ่ายได้หมด อันนี้ก็ต้องท าตามกฎหมาย และบางครั้งในการลงพื้นที่ บุคคลที่จะเข้ามา
เบิกค่าใช้จ่ายค่อนข้างยาก”
ั
ปญหา ข้อจ ากัดเกี่ยวกับด้านงบประมาณ คณะผู้วิจัยท าการส ารวจภาคสนามรวม 2 ด้าน
ั
คือ 1) ปญหาขาดระบบการติดตาม ตรวจสอบการใช้เงินให้เป็นไปตามแผนงบประมาณ และ 2)
ั
ระบบการเบิกจ่ายล่าช้า บางครั้งต้องส ารองจ่ายล่วงหน้า ซึ่งพบว่าปญหาข้อ จ ากัดทั้ง 2 ด้านมี
น ้าหนักในระดับ “ปานกลาง” โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.38 และ 3.14 ตามล าดับ รายละเอียดดัง
ตารางที่ 7.6
- 506 -

