Page 311 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 311
(1) มาตรา 59 วรรคสาม บัญญัติต่อไปว่า ในกรณีที่มีการอุทธรณ์หรือในกรณีที่
เลขาธิการฯ เห็นว่ามีเหตุผลสมควรที่คณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์จะได้พิจารณาทบทวนค า
วินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ภูมิภาค ให้เลขาธิการฯ ส่งค าวินิจฉัยให้คณะกรรมการ
วินิจฉัยร้องทุกข์พิจารณา
(2) มาตรา 60 แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการกฤษฎีกาฯ บัญญัติว่า ในกรณี
ที่คณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ภูมิภาคได้พิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ใดแล้ว และมีค าวินิจฉัย
ที่ไม่มีข้อเสนอให้สั่งการตามมาตรา 48 ให้ “เลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ภูมิภาค”
แจ้งให้ผู้ร้องทุกข์ทราบ และถ้าผู้ร้องทุกข์ไม่เห็นด้วยกับค าวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยร้อง
ทุกข์ภูมิภาค ให้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ได้ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่
ได้รับแจ้งค าวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ภูมิภาค
(3) มาตรา 61 แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการกฤษฎีกาฯ บัญญัติว่า
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยื่นอุทธรณ์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ตาม
มาตรา 59 และมาตรา 60 ให้เป็นไปตามระเบียบของคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์
(4) ระเบียบของคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ว่าด้วยการอุทธรณ์และการ
ทบทวนค าวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิฉัยร้องทุกข์ภูมิภาค พ.ศ. 2539 ก าหนดวิธีการอุทธรณ์ไว้
ดังนี้
(4.1) ผู้ร้องทุกข์หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ไม่เห็นด้วยกับค าวินิจฉัยของ
คณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ภูมิภาคตามมาตรา 59 หรือ มาตรา 60 แล้วแต่กรณี ให้มีสิทธิ
อุทธรณ์ค าวินิจฉัยดังกล่าวต่อคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ได้ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับ
แจ้งค าวินิจฉัยนั้น
(4.2) ค าอุทธรณ์ ต้อง
(ก) ท าเป็นหนังสือไทยและใช้ถ้อยค าสุภาพ
(ข) มีชื่อและที่อยู่ของผู้อุทธรณ์
(ค) มีส าเนาค าวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ภูมิภาคแนบมา
ด้วย
(ง) ระบุประเด็นและเหตุผลของการอุทธรณ์
(จ) ลงลายมือชื่อของผู้อุทธรณ์หรือผู้มีอ านาจลงนามแทนผู้อุทธรณ์
แล้วแต่กรณี
- 262 -