Page 167 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 167
มาตรา 32
ในการปฏิบัติหน้าที่ให้คณะกรรมการมีอ านาจดังต่อไปนี้
1. มีหนังสือสอบถามส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้มี
หนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงหรือให้ความเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการหรืองานใดๆ หรือส่งวัตถุ
เอกสาร หรือพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือส่งผู้แทนมาชี้แจงหรือให้ถ้อยค าประกอบการ
พิจารณาได้
2. มีหนังสือเรียกบุคคล นิติบุคคล หรือหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยค า
หรือให้ส่งวัตถุ เอกสาร หรือพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวของมาตราวันเวลาและสถานที่ที่ก าหนด
3. ด าเนินการขอให้ศาลที่มีเขตอ านาจออกหมายเพื่อเข้าไปในเคหสถานหรือ
สถานที่ใดๆ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ
ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องกระท าเท่าที่จ าเป็นและโดยไม่ชักช้า
มาตรา 33
ให้กรรมการ อนุกรรมการ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่คณะกรรมการแต่งตั้งเพื่อ
ท าการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และ
มีบทก าหนดโทษดังนี้
มาตรา 34
ผู้ใดไม่มาให้ถ้อยค า หรือไม่ส่งวัตถุ เอกสาร หรือพยานหลักฐานที่ถูกเรียกหรือ
ถูกสั่งให้ส่งตามมาตรา 32 (2) ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
หรือทั้งจ า ทั้งปรับ
มาตรา 35
ผู้ใดต่อสู้หรือขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 32 (2) ต้องระวางโทษจ าคุก
ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจ าทั้งปรับ
- 123 -