Page 71 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 71
คณะกรรมการสอบสวนการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน์ที่ออกโดย
่
คลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างน้อยต้องมีเจ้าพนักงานฝายปกครองและตัวแทนคณะ
ผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่เป็นกรรมการ
การสอบสวนตามวรรคสองต้องดําเนินการให้แล้วเสร็จและส่งให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดี
มอบหมายตามวรรคหนึ่งภายในกําหนดหกสิบวันนับแต่วันที่ได้มีคําสั่งให้ทําการสอบสวน ในกรณีที่
คณะกรรมการสอบสวนไม่สามารถดําเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในกําหนดเวลาดังกล่าว ให้คณะกรรมการ
สอบสวนรายงานเหตุที่ทําให้การสอบสวนไม่แล้วเสร็จต่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายตามวรรคหนึ่ง
เพื่อขอขยายระยะเวลาการสอบสวน โดยให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายตามวรรคหนึ่งสั่งขยาย
ระยะเวลาดําเนินการได้ตามความจําเป็นแต่ไม่เกินหกสิบวัน
ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายตามวรรคหนึ่งพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวันนับแต่
ได้รับรายงานการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวนตามวรรคสี่ เมื่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย
ตามวรรคหนึ่งพิจารณาประการใดแล้ว ก็ให้ดําเนินการ ไปตามนั้น
การดําเนินการเพิกถอนหรือแก้ไขตามความในมาตรานี้ ถ้าไม่ได้โฉนดที่ดิน หรือหนังสือ
รับรองการทําประโยชน์มา ให้ถือว่าโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน์นั้นสูญหาย และ
ให้เจ้าพนักงานที่ดินออกใบแทนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินเพื่อดําเนินการต่อไป
ถ้ามีการคลาดเคลื่อนเนื่องจากเขียนหรือพิมพ์ข้อความผิดพลาดโดยมีหลักฐานชัดแจ้งและ
ผู้มีส่วนได้เสียยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว ให้เจ้าพนักงานที่ดินมีอํานาจหน้าที่แก้ไขให้ถูกต้องได้
ในกรณีที่ศาลมีคําพิพากษาหรือคําสั่งถึงที่สุดให้เพิกถอนหรือแก้ไขอย่างใดแล้ว ให้เจ้าพนักงาน
ที่ดินดําเนินการตามคําพิพากษาหรือคําสั่งนั้นตามวิธีการที่อธิบดีกําหนด
การตั้งคณะกรรมการสอบสวน การสอบสวน การแจ้งผู้มีส่วนได้เสียเพื่อให้โอกาสคัดค้านและ
การพิจารณาเพิกถอนหรือแก้ไข ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในกฎกระทรวง
ส่วนแนวทางพัฒนาในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 ก็ได้ให้ความสําคัญ
กับเรื่องที่ดินโดยระบุไว้ใน แนวทางการพัฒนา ดังนี้
1. รักษาและคุ้มครองพื้นที่ที่มีศักยภาพทางการเกษตรและสนับสนุนให้เกษตรกรรายย่อยมีที่ดิน
เป็นของตนเองหรือมีสิทธิทํากินในที่ดิน โดยการปรับปรุงกฎ ระเบียบ ที่มีอยู่ให้เอื้อต่อการนําที่ดิน
มาใช้เพื่อการเกษตร
2. เร่งรัดให้มีการนําที่ดินที่ซื้อจากเอกชนมาดําเนินการปฏิรูปเพื่อเกษตรกรรม และใช้มาตรการ
ทางภาษีเพื่อบังคับหรือจูงใจให้บุคคลผู้ถือครองที่ดินไว้เป็นจํานวนมากโดยไม่ได้จัดทําประโยชน์
ในทางเศรษฐกิจและสังคมให้หันมาทําประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวมากขึ้น
3. เร่งรัดการจัดให้มีองค์กรและระบบบริหารจัดการที่ดินให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วเพื่อเป็นกลไก
ในการกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและดําเนินการให้เกษตรกรมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินเพื่อ
ประกอบเกษตรกรรมอย่างทั่วถึง และสนับสนุนการใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐอย่างคุ้มค่าโดยเกษตรกร
และชุมชน รวมทั้งเร่งรัดการออกเอกสารสิทธิ์หรือจัดสรรสิทธิในที่ดินอย่างเป็นธรรมให้แก่เกษตรกร
ผู้ไร้ที่ทํากินให้มีที่ดินเป็นของตนเอง
4‐11