Page 438 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 438
ปลายเดือนพฤษภาคม ปี 2517 มีชาวนาในอําเภอท่าตะโก อําเภอหนองบัว และอําเภอชุมแสง
จังหวัดนครสวรรค์ ประมาณ 50 คน เดินทางมาร้องเรียนต่อนายสัญญา ธรรมศักดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่
ทําเนียบรัฐบาล เพื่อขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับที่ดินทํากิน เนื่องจากถูกนายทุนข่มขู่และบุกรุกเพื่อยึด
ที่ดินที่ได้ขายขาดมาให้แล้วเป็นเวลานานกลับคืน เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2517 นายสัญญา ธรรมศักดิ์
นายกรัฐมนตรี มีคําสั่งอาศัยโดยอํานาจตามมาตรา 17 แห่งธรรมนูญการปกครองเข้าดําเนินการอย่าง
เฉียบขาดเพื่อช่วยชาวนาชาวไร่ที่เดือดร้อนจากเจ้าของที่นาและนายทุนเงินกู้ทั่วประเทศ รายละเอียด
ตามคําสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ สลร. 32/2517 มีใจความสรุปว่า
“โดยที่ปรากฏว่าในขณะนี้ ได้มีบุคคลบางคนเอารัดเอาเปรียบชาวนาชาวไร่ผู้ยากจนขัดสน
โดยใช้อิทธิพลข่มขู่หรือกลอุบลายต่างๆ เพื่อให้ที่ดินตกมาเป็นกรรมสิทธิ์ของตนโดยไม่เป็นธรรม
นอกจากนั้นเจ้าของที่นาบางรายอาศัยเหตุที่ข้าวมีราคาสูงบีบบังคับชาวนาให้ต้องเสียค่าเช่านาในอัตรา
ที่สูงเกินสมควรจนชาวนาไม่อาจเช่านาทําได้ทําให้เดือนร้อนอย่างยิ่ง รัฐบาลได้พยายามเจรจากับ
เจ้าของที่ดินเหล่านั้น ขอความเห็นใจให้ช่วยเหลือเกื้อกูลชาวนาได้ทํานาทําไร่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง
จนกว่ารัฐบาลจะจัดหาที่ดินให้ชาวนาชาวไร่เหล่านั้นได้ แต่ก็มิได้รับความเห็นใจ การกระทําของ
เจ้าของที่ดินเหล่านั้นนับได้ว่าเป็นการก่อกวนคุกคามความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของ
ประชาชน และเป็นการบ่อนทําลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ รัฐบาลจึงจําเป็นต้องใช้
้
มาตรการพิเศษเข้าดําเนินการเพื่อประโยชน์ในการปองกัน ระงับและปราบปรามการกระทําดังกล่าว
อาศัยอํานาจตามมาตรา 17 แห่งธรรมนูญการปกครอง นายกรัฐมนตรีจึงมีคําสั่งที่สําคัญๆ ดังนี้คือ
นายกรัฐมนตรีมีอํานาจตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่งหรือหลายคณะเพื่อดําเนินการช่วยเหลือให้ชาวนา
ชาวไร่ที่สุจริตได้ทํานาทําไร่ทันฤดูการผลิตปี 2517 นี้ ให้กรรมการที่ตั้งขึ้นเรียกเจ้าของที่ดินและชาวนา
ชาวไร่ที่ได้เคยทําประโยชน์ในที่ดินในปี 2516 มาเจรจาทําความตกลงเพื่อให้ชาวนาชาวไร่ได้ใช้ที่ดินทํา
นาทําไร่ต่อไป ในกรณีที่เจ้าของที่ดินยินยอมตกลงและเจ้าของที่ดินได้ลงมือทําประโยชน์ในที่ดินนั้น
บ้างแล้ว ให้กระทรวงมหาดไทยจ่ายเงินชดเชยทดรองให้แก่เจ้าของที่ดินตามที่เจ้าของที่ดินได้จ่ายไป
จริง ถ้าการทําประโยชน์ในที่ดินนั้นเป็นผลต่อชาวนาชาวไร่ให้เรียกเก็บจากชาวนาชาวไร่นั้น เมื่อเก็บ
เกี่ยวผลผลิตได้แล้ว ในกรณีเจ้าของที่ดินหรือผู้เข้าทําประโยชน์ในที่ดินรายใหม่ไม่ยอมมาเจรจาหรือไม่
ยอมปฏิบัติตามคําร้องของคณะกรรมการการ และข้อเท็จจริงได้ความว่าที่ดินนั้นเป็นที่ดินที่ชาวนา
ชาวไร่ได้เคยทําประโยชน์อยู่ในปี 2516 และเจ้าของที่ดินได้บอกเลิกการให้เข้าทําประโยชน์โดยไม่เป็น
ธรรม และที่ดินแปลงนั้นยังมิได้ให้ผู้อื่นเข้าทําประโยชน์ก่อนวันที่คําสั่งนี้ใช้บังคับ หรือปรากฏว่าได้ให้
ผู้อื่นเข้าทําประโยชน์ไปแล้ว แต่การให้เข้าทําประโยชน์นั้นได้กระทําไปโดยสมคบกันระหว่างเจ้าของ
ที่ดินกับผู้ทําประโยชน์รายใหม่เพื่อขัดขวางมิให้ชาวนาชาวไร่เดิมได้เข้าทําประโยชน์ในที่ดินนั้น หรือ
เพื่อหลีกเลี่ยงคําสั่งนี้ หรือผู้เข้าทําประโยชน์รายใหม่ยังมิได้ลงมือทําประโยชน์ในที่ดินแปลงนั้น ให้
คณะกรรมการมีอํานาจจัดสรรให้ชาวนาชาวไร่ผู้ที่เคยทําประโยชน์ในที่ดินแปลงนั้นในปี 2516 ได้เข้า
เช่าที่ดินนั้น ให้คณะกรรมการกําหนดค่าเช่าให้เจ้าของที่ดินตามที่เห็นสมควรกับสภาพท้องที่ ในกรณี
8‐3