Page 20 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยสาเหตุการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
P. 20
9
1. ประมวลกฎหมายอาญา และพระราชบัญญัติที่มีโทษทางอาญา จ าต้อง
ก าหนด ปทัสฐาน( Norm) ที่เป็นมาตราฐานที่แน่นอน ชัดแจ้ง โดยไม่มีที่สงสัย เพื่อให้บุคคล
ประพฤติปฏิบัติตามได้โดยถูกต้อง
2. การตั้งข้อหา และการแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ หมายความว่าการ
กล่าวหาบุคคลหนึ่งบุคคลใดต้องแจ้งให้บุคคลนั้นทราบถึงลักษณะของความผิดและข้อหา
3. การฟ้องคดีโดยไม่ชักช้า หมายความว่าผู้ถูกจับกุมในคดีอาญาจะถูก
ด าเนินคดีในศาลโดยปราศจากการชักช้าโดยไม่จ าเป็น
4. สิทธิที่จะไม่ให้การเป็บปฏิปักษ์ต่อตนเอง การบีบบังคับให้ผู้ต้องหารับ
สารภาพโดยใช้ก าลังบังคับ ขู่เข็ญ ชักจูงใจ หรือใช้สงครามจิตวิทยา และวิธีการที่ไม่สมควรจะ
กระท ามิได้ เช่นพยานหลักฐานที่ได้มาจากการสะกดจิต ศาลไม่ยอมรับฟัง
5. ห้ามมิให้ท าการค้นและจับโดยไม่มีเหตุผล ความมุ่งหมายของกฎหมายก็
เพื่อที่จะให้ความคุ้มครองแก่บุคคลในกรณีที่ถูกจับโดยไม่มีเหตุอันสมควร รวมทั้งการค้นและการ
ยึดทรัพย์สินโดยไม่มีหมาย จะไม่สามารถน าพยานหลักฐานที่ได้มาโดยมิชอบนี้ไปใช้ยันจ าเลยใน
ศาลได้
6. สิทธิที่จะได้รับความช่วยเหลือทางด้านกฏหมายจากรัฐ สิทธิดังกล่าวนี้จะ
เริ่มต้นเมื่อบุคคลได้ถูกเจ้าหน้าที่สืบสวนว่ากระท าผิดกฎหมาย ผู้ต้องหาที่ยากจนทุกคนจะขอให้รัฐ
จัดหาทนายความให้แก่ตนได้ถ้าถูกกล่าวหาในคดีอุกฉกรรจ์
7. การพิจารณาคดีโดยลูกขุน
8. สิทธิที่จะเรียกพยานฝ่ายตนและซักค้านพยานฝ่ายตรงข้าม สิทธิในที่นี้
เป็นสิทธิในคดีอาญา ไม่รวมถึงการพิจารณาคดีปกครองหรือการพิจารณาโดย Grand Jury
9. สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาคดีจากผู้พิพากษาที่เป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่
คู่ความฝ่ายใด หมายความว่าอัยการ
10. สิทธิที่จะได้รับการฟ้องร้องจากอัยการที่เป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่คู่ความฝ่ายใด
หมายความว่าอัยการจะต้องพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ทั้งของรัฐและจ าเลย
11. ได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธ์ หมายความว่าทนายความของรัฐ
จะต้องพิสูจน์ความผิดของจ าเลยโดยปราศจากข้อสงสัย และหน้าที่น าสืบเป็นของรัฐ ไม่ใช่เป็น
ของจ าเลย
12. ห้ามมิให้ลงโทษจ าเลยด้วยความทารุณโหดร้าย และวิปริตผิดธรรมดา
13. สิทธิที่จะได้รับการประกันตัวด้วยหลักทรัพย์พอสมควร