Page 18 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยสาเหตุการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
P. 18

7


                                  แนวความคิดในเรื่องคุ้มครองสิทธิของบุคคลที่เป็นผู้ถูกกล่าวหาทฤษฎีว่าด้วยการให้

                      ความยุติธรรมทางอาญาที่ขัดกันอยู่ตลอดเวลา คือ ทฤษฎีกระบวนการยุติธรรม      (The  Due

                      Process Model)  และทฤษฎีควบคุมอาชญากรรม  (The Crime Control Model)


                                  2.2.1 ทฤษฎีกระบวนการยุติธรรม  (The Due Process Model)
                                       ถือเป็นทฤษฎีที่มีรูปแบบที่ยึดกฎหมายเป็นส าคัญ  โดยเน้นหนักในหลัก

                      กฎหมายที่มุ่งคุ้มครองสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล  ว่าคนจะผิดได้ต้องผ่านการตัดสินของศาล  การ

                      ด าเนินคดีจะต้องกระท าลงไปโดยมิให้ผิดพลาดได้  ไม่มีอคติและไม่ใช้อ านาจในทางที่ผิดผู้บริสุทธิ์

                      จะต้องได้รับการคุ้มครอง  ผู้กระท าผิดก็ควรได้รับการลงโทษ  ซึ่งเป็นประเด็นหลักของรูปแบบนี้

                      ต้องด าเนินไปตามวิธีที่ท าให้เชื่อได้ว่าความเป็นธรรมได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้ที่ถูกสงสัยว่ากระท าความผิด
                      จึงยังเป็นผู้บริสุทธิ์ อยู่จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่า  เขาเป็นผู้ที่กระท าผิดจริง ทั้งนั้นเพราะแนวความคิดนี้

                      ยึดถือหลักกฎหมายหรือหลักนิติธรรม  (Rule of Law)  มากกว่าการควบคุมอาชญากรรม ทฤษฎีนี้

                      จึงไม่ยอมรับการได้พยานหลักฐานที่เจ้าพนักงานได้มาจากการกระท าการอันมิชอบด้วยกฎหมาย

                      และอาจพิจารณาปล่อยตัวผู้ต้องหาไป

                                       ซึ่งท่านอาจารย์ ประธาน วัฒนวาณิชย์ ผู้เขียนบทความในเรื่องนี้อธิบาย
                      เกี่ยวกับทฤษฎีนี้ไว้ว่า   “ทั้งนี้มิได้หมายความว่า  อุดมการณ์ของทฤษฎีนี้แตกต่างจากทฤษฎีการ

                      ควบคุมอาชญากรรม  แต่ว่าทฤษฎีกระบวนการนิติธรรมยึดหลักกฎหมายหรือหลักนิติธรรมมากกว่า

                      ความคิดในเรื่องการควบคุมอาชญากรรม และไม่เชื่อว่า  ความคิดในการควบคุมอาชญากรรม

                      อย่างที่กล่าวมาข้างนั้นจะมีประสิทธภาพอย่างแท้จริง  โดยเฉพาะการค้นหาข้อเท็จจริง ซึ่งกระท า
                      โดยเจ้าหน้าที่ต ารวจและอัยการหรือฝ่ายปกครองจะเชื่อถือได้เพียงใด  เพราะวิธีการปฏิบัติของ

                      ต ารวจและอัยการด าเนินงานในที่รโหฐาน  ซึ่งอาจจะใช้วิธีล่อลวง  ขู่เข็ญ  หรือการสร้าง

                      พยานหลักฐานขึ้นใหม่ได้  ดังนั้นแนวความคิดของทฤษฎีกระบวนการยุติธรรม  จึงไม่เห็นพ้องด้วย

                      กับการแสวงหาข้อเท็จจริงอย่างไม่เป็นทางการของทฤษฎีควบคุมอาชญากรรม  และต้องให้มีการ
                      พิจารณาคดีหรือไต่สวนผู้ต้องหาอย่างเป็นทางการ  และเปิดเผยในศาลยุติธรรม  ทั้งในปัญหา

                      ข้อเท็จจริงและปัญหาข้อกฎหมายต่อหน้าองค์คณะของผู้พิพากษาที่เป็นกลาง ไม่ล าเอียงเข้ากับ

                      ฝ่ายใด”

                                       กระบวนการแบบ Due Process Model จะเน้นวิธีการแสวงหาพยานหลักฐาน

                      ที่เชื่อถือได้  ชอบด้วยขั้นตอนของกฎหมาย  หากเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ด าเนินคดีไปตามขั้นตอนต่าง ๆ
                      อย่างครบถ้วนแล้ว ศาลก็อาจใช้ดุลพินิจหรือปล่อยตัวจ าเลยไป  หรืออาจให้พิจารณาคดีใหม่ได้
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23