Page 35 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ปัญหาเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน ฉบับสมบูรณ์
P. 35

วัฒนธรรมมีผลท ำให้เกิดควำมไม่เท่ำเทียมกัน และกำรเลือกปฏิบัติ กำรเข้ำถึงสิทธิของเด็ก/เยำวชนและ

               ผู้หญิงในกำรมีชีวิตอยู่อย่ำงมีศักดิ์ศรีควำมเป็นมนุษย์ (Right to Life) และกำรไม่ถูกเลือกปฏิบัติ
                         อย่ำงไรก็ตำมจำกกำรที่บทบำทของผู้หญิงเริ่มเปลี่ยนไป กฎหมำยกำรสมรสและครอบครัวซึ่ง

               ประกำศใช้ในปี ๑๙๕๙ และแก้ไขในปี ๑๙๘๖ จะเห็นได้ว่ำมีกำรเปลี่ยนแปลงในเรื่องบทบัญญัติในกำรให้

               อิสระในกำรสมรส และสิทธิระหว่ำงผู้ชำยและผู้หญิงที่เท่ำเทียมกันมำกขึ้น กำรแก้ไขให้กำรคลุมถุงชนเป็น

               สิ่งผิดกฎหมำย และเน้นควำมรับควำมผิดชอบของสำมีในกำรเลี้ยงดูลูกทั้งในระหว่ำงกำรสมรสและ

               หลังจำกที่หย่ำร้ำงแล้ว เป็นต้น ผู้หญิงเริ่มตระหนักในสิทธิของตนเองมำกขึ้น เห็นได้จำก Ordinance  on
               Population (2003) มำตรำ ๑๐ บัญญัติถึงสิทธิด้ำนอนำมัยเจริญพันธุ์ของคู่สำมีภรรยำและบุคคล ดังที่ได้

               กล่ำวไปแล้ว แต่ในทำงปฏิบัติกำรบริกำรด้ำนกำรวำงแผนครอบครัว และอนำมัยเจริญพันธุ์ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่

               กลุ่มเยำวชนและประชำกรที่ยังไม่ได้แต่งงำน และมีสัญญำณที่บ่งบอกถึงอคติและกำรตีตรำต่อเยำวชนที่ใช้

               บริกำรด้ำนกำรคุมก ำเนิดและอนำมัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งต่อเยำวชนหญิง (Hoang  Ba  Thinh,

               2009)
                       เป็นที่น่ำสังเกตว่ำ กฎหมำยที่น ำมำศึกษำไม่มีกำรระบุถึงสิทธิในควำมเป็นส่วนตัวหรือกำรรักษำ

               ควำมลับ  (Right  to  Privacy)  ซึ่งผลกำรศึกษำวิจัยชี้ให้เห็นว่ำ สิทธิด้ำนนี้ของผู้ป่วยไม่ได้รับกำรพิทักษ์

               เนื่องจำกกำรให้บริกำรด้ำนกำรวำงแผนครอบครัวในปัจจุบันไม่ได้ค ำนึงถึงควำมเป็นส่วนตัวและกำรรักษำ

               ควำมลับ นอกจำกนี้เจ้ำหน้ำที่ที่ให้บริกำรสำมำรถเปิดเผยเรื่องรำวชีวิตของผู้ป่วย หรือเยำวชนหญิงที่ไปใช้
               บริกำรยุติกำรตั้งครรภ์ให้คนในชุมชนรับรู้ได้ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งในสังคมชนบทของประเทศเวียดนำม ซึ่งทุก

               คนจะรู้จักกันและครอบครัวของกันและกันเป็นอย่ำงดี (Hoang Hai et al., 2006: 28) ถือเป็นกำรละเมิด

               สิทธิในควำมเป็นส่วนตัวหรือกำรรักษำควำมลับ


               ฟิลิปปินส์

                       ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นประเทศสมำชิกอำเซียนที่มีรูปแบบกำรปกครองแบบประชำธิปไตย

               ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในสองชำติในเอเชียที่ประชำกรส่วนใหญ่นับถือศำสนำคริสต์ ร้อยละ ๙๒  ของชำว
               ฟิลิปปินส์ทั้งหมดนับถือศำสนำคริสต์ โดยร้อยละ ๘๓ นับถือนิกำยโรมันคำทอลิก และร้อยละ ๙ เป็นนิกำย

               โปรเตสแตนต์และเป็นหนึ่งในชำติที่ได้รับอิทธิพลจำกตะวันตกมำกที่สุด เป็นกำรผสมผสำนกันระหว่ำง

               ตะวันตกกับตะวันออก (คลังปัญญำไทย,  ๒๕๕๕) คริสตจักรคำทอลิกฟิลิปปินส์เป็นสถำบันที่มีอิทธิพล
               อย่ำงมำกต่อต่อสังคมและวัฒนธรรม ตลอดจนควำมคิดควำมเชื่อของคนในสังคม ซึ่งส่งผลต่อสิทธิด้ำน

               อนำมัยเจริญพันธุ์ของผู้หญิง และเยำวชนหญิง ประเทศฟิลิปปินส์มีประชำกรประมำณ ๑๐๓ ล้ำนคน โดย

               ประชำกรที่มีอำยุระหว่ำง ๐-๑๔ ประมำณร้อยละ ๓๔.๖ และอำยุระหว่ำง ๑๕-๖๔ ประมำณร้อยละ ๖๑.๑

               (CIA world Factbook: Philippines) ประเทศฟิลิปปินส์ประสบปัญหำประชำกรล้นประเทศมำนำน ที่เป็น

               เช่นนี้ก็เพรำะควำมเชื่อทำงศำสนำที่ห้ำมกำรคุมก ำเนิด และบริกำรสุขภำพทำงเพศและอนำมัยเจริญพันธุ์





                                                                                                       ๓๔
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40