Page 32 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ปัญหาเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน ฉบับสมบูรณ์
P. 32

โดยกฎหมำยนี้มีกำรระบุถึงเรื่องกำรไม่เลือกปฏิบัติต่อเด็กในมำตรำ ๔

                              “เด็ก ไม่ว่าจะเป็นเด็กหญิง หรือเด็กชาย เกิดในหรือนอกสมรส ทางกายภาพ หรือรับมา
                       เลี้ยงดู เกิดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้ง ๒ ฝ่ายจากการแต่งงาน โดยไม่ค านึงถึงสัญชาติ ความเชื่อ

                       ศาสนา ภูมิหลังทางสังคม และฐานะ รวมไปถึงความคิดเห็นทางการเมืองของบิดามารดา หรือ

                       ผู้ปกครอง ต้องได้รับการคุ้มครอง การดูแล และการศึกษา และมีสิทธิตามที่กฎหมายระบุ”

                       มำตรำ ๕  ควำมรับผิดชอบในกำรคุ้มครองเด็ก กำรดูแล และกำรศึกษำ ระบุว่ำ กำรคุ้มครองเด็ก
               ดูแล และกำรศึกษำ เป็นควำมรับผิดชอบของครอบครัว โรงเรียน รัฐ สังคม และพลเมือง ในกิจกรรมทุกด้ำน

               ที่เกี่ยวกับเด็กของหน่วยงำน องค์กร ครอบครัว หรือบุคคล ให้ค ำนึงถึงประโยชน์ของเด็กเป็นอันดับแรก โดย

               รัฐสนับสนุนและสร้ำงสภำพของหน่วยงำน องค์กร ครอบครัว หรือบุคคลที่บ้ำนและนอกบ้ำนเพื่อเอื้อต่อผล

               กำรคุ้มครองเด็ก เอำใจใส่ และกำรศึกษำ
                       สิทธิของเด็กระบุไว้ในมำตรำ ๖ ว่ำ สิทธิของเด็กต้องได้รับกำรเคำรพและเด็กสำมำรถใช้สิทธิของ

               ตนได้ กำรกระท ำใดที่เป็นกำรล่วงละเมิดสิทธิเด็ก ท ำให้เกิดควำมรุนแรงต่อกำรพัฒนำตำมวัยของเด็ก

               จะต้องได้รับกำรลงโทษตำมกฎหมำย ในหมวดที่ ๒ ของกฎหมำยนี้จะว่ำด้วยเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐำนและ

               หน้ำที่ของเด็ก โดยมำตรำ ๑๔  สิทธิในกำรได้รับกำรเคำรพ และชีวิต ร่ำงกำย เกียรติ และศักดิ์ศรีของเด็ก

               ต้องได้รับกำรพิทักษ์โดยครอบครัวของเด็ก รัฐและสังคม
                       ส ำหรับสิทธิในกำรดูแลและป้ องกันสุขภำพ (Right to Health Care and Health Protection) ระบุ

               ไว้ในมำตรำ๑๕  ว่ำด้วยเรื่องสิทธิในกำรดูแลสุขภำพ และสิทธิในกำรศึกษำ (Right  to  Information  and

               Education)  ในมำตรำ ๑๖  โดยระบุว่ำ เด็กมีสิทธิในกำรศึกษำ และเด็กสำมำรถศึกษำในระดับ

               ประถมศึกษำในสถำนศึกษำของรัฐโดยไม่ต้องจ่ำยค่ำเล่ำเรียน และมำตรำ ๒๐  สิทธิในกำรได้รับข้อมูล

               ข่ำวสำร กำรแสดงควำมคิดเห็น และกำรมีส่วนร่วมในกิจกรรมทำงสังคม กล่ำวคือ เด็กมีสิทธิในกำรได้รับ
               ข้อมูลข่ำวสำรที่เหมำะสมกับกำรพัฒนำของเด็ก กำรแสดงควำมคิดเห็นและออกเสียงในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ

               เด็ก

                       ขณะเดียวกัน กฎหมำยนี้ได้มีกำรบัญญัติเรื่องหน้ำที่ของเด็กไว้ใน มำตรำ ๒๑ ดังต่อไปนี้:
                           “๑. รัก เคารพ และเชื่อฟังปู่ย่าตายาย บิดามารดา เคารพคุณครู สุภาพต่อผู้ใหญ่ รักผู้อ่อน

                       เยาว์กว่า และปรองดองกับเพื่อน ช่วยเหลือผุ้อาวุโส คนพิการ และผู้ไร้ซึ่งความสามารถ ผู้ที่อยู่ใน

                       สภาพยากล าบากตามศักยภาพของเด็ก”


                       จะเห็นได้ว่ำ แม้กฎหมำยจะให้กำรคุ้มครองสิทธิของเด็ก โดยให้ค ำนึงถึงสิทธิของเด็กเป็นอันดับ

               แรก แต่กำรบัญญัติเรื่องหน้ำที่ของเด็ก อำจส่งผลต่อกำรก ำจัดสิทธิของเด็กในกำรมีชีวิตอยู่อย่ำงมีศักดิ์ศรี

               ควำมเป็นมนุษย์ และกำรถูกเลือกปฏิบัติ หรือท ำให้เด็กไม่สำมำรถที่จะใช้สิทธิของตนได้อย่ำงเต็มที่

               โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งเด็กหญิง/เยำวชนหญิง เนื่องจำกบริบททำงสังคมและวัฒนธรรมของประเทศเวียดนำม





                                                                                                       ๓๑
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37