Page 180 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ปัญหาเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน ฉบับสมบูรณ์
P. 180
สิ่งที่เหมือนๆ กันในการก าหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับอนามัยเจริญพันธุ์ของทั้ง ๓ ประเทศคือ เราจะเห็นว่า หลัก
ความเชื่อทางศาสนามีอิทธิพลเหนือการบังคับใช้กฎหมายมาก แม้ว่าในความเป็นจริง ทั้ง ๓ ประเทศจะลงนามใน
อนุสัญญาต่างๆ ไปแล้วก็ตาม ตรงนี้เอง เป็นอุปสรรคส าคัญที่ท าให้เยาวชนหญิงไม่สามารถบรรลุสิทธิอนามัย
เจริญพันธุ์ด้านต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิในการรักษาความลับและสิทธิแห่งความเป็นส่วนตัว
ซึ่งยังไม่เห็นความชัดเจนในทั้ง ๓ ประเทศนี้
ไม่ต้องกล่าวถีงการมีกฎหมายอนามัยเจริญพันธุ์โดยเฉพาะ ซึ่งจะมาช่วยเติมเต็มช่องว่างนี้และคุ้มครองสิทธิของ
เยาวชนหญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อม ทั้ง ๓ ประเทศนี้ไม่มีกฎหมายเฉพาะเลย ประเทศฟิลิปปินส์เคยพยายามแล้ว โดย
ผ่านการท าประชาพิจารณ์มาหลายรอบ แต่ก็ตกไปจากการเป็นวาระพิจารณาเร่งด่วน เพราะทางศาสนจักรคัดค้าน
อย่างหนักหน่วง เนื่องจากกลัวว่าการท าแท้งจะท าได้ถูกต้องตามกฎหมาย
จะเห็นได้ว่า แม้จะมีกฎหมายเขียนไว้เรื่องสิทธิต่างๆ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถน ามาปฏิบัติได้จริงเพราะเงื่อนไขของ
ความเชื่อทางศาสนา และสังคมวัฒนธรรม ที่ร้ายไปกว่านั้น อคติของคนในสังคมที่ไม่ยอมรับการตั้งครรภ์ของ
เยาวชนหญิง ซึ่งมองว่า วัยนี้ไม่สมควรที่จะตั้งครรภ์ แม้แต่จะมีเพศสัมพันธ์ กฎหมายหรือนโยบายจึงมองข้ามคน
กลุ่มนี้ไปอย่างน่าเสียดาย ส่งผลให้เยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อมไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย และการ
สนับสนุนทางสังคม
คุณชานันท์ ยอดหงษ์ นักวิจัยในส่วนกฎหมายในไทย
ก. กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายด้านสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์โดยตรง แต่กฎหมายที่คุ้มครองสิทธิของเยาวชน ได้แก่
พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ๒๕๔๒ พรบ.คุ้มครองเด็ก ๒๕๔๖ พรบ.คุ้มครองผู้ถูกกระท าความรุนแรงในครอบครัว
๒๕๕๐ พรบ.ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ๒๕๕๐ ฯลฯ
ตัว พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ๒๕๔๒ ก าหนดเรื่องของการศึกษาไว้ และเกี่ยวข้องกับเยาวชนหญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อม
ที่ยังเรียนอยู่ ใน พรบ.พูดถึงการศึกษาภาคบังคับ ซึ่งเยาวชนทุกคนตั้งแต่อายุ ๗ ปีถึง ๑๖ ปีต้องได้รับการศึกษา
ตรงนี้ โดยเน้นให้เยาวชนเป็นศูนย์กลาง
ส่วนอีก ๓ พรบ. อันได้แก่ พรบ.คุ้มครองเด็ก ๒๕๔๖ พรบ.คุ้มครองผู้ถูกกระท าความรุนแรงในครอบครัว ๒๕๕๐
พรบ.ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ๒๕๕๐ พยายามให้เด็กมีส่วนร่วมกับทางภาครัฐในการพัฒนา
และคุ้มครองเด็กไม่ให้ถูกละเมิดสิทธิศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เช่น ไม่ให้ถูกกระท าความรุนแรง แต่ พรบ.ทั้งสามนี้
ไม่พูดถึงอนามัยเจริญพันธุ์เลย เช่น การตัดสินใจมีลูกได้เมื่อไหร่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ แต่
ค-๗