Page 18 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ปัญหาเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน ฉบับสมบูรณ์
P. 18
กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
เป็นกติกำระหว่ำงประเทศที่ประเทศไทยเข้ำเป็นภำคีเมื่อ ๕ กันยำยน ๒๕๔๒ และมีผลใช้บังคับ ๕
ธันวำคม ๒๕๔๒ ซึ่งเนื่องจำกเป็นกติกำระหว่ำงประเทศฯ ที่มุ่งก ำหนดถึงบทบำทของรัฐที่มีต่อสังคม
วัฒนธรรมวิถีชีวิตของพลเมืองจึงมีเนื้อหำเกี่ยวข้องกับสิทธิเยำวชนหญิงตั้งครรภ์โดยเฉพำะ โดยระบุไว้ตำม
ภำคและข้อต่ำงๆ ได้แก่ ภำค ๒ ข้อ ๕ ดังนี้
“๒. ห้ามการจ ากัดหรือลิดรอนสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ได้รับการรับรอง
หรือที่มีอยู่ในประเทศใด โดยอาศัยอ านาจของกฎหมาย อนุสัญญา ข้อบังคับ หรือ
จารีตประเพณี โดยอ้างว่ากติกานี้ไม่รับรองสิทธิเช่นว่านั้น หรือรับรองสิทธินั้นใน
ขอบเขตที่ด้อยกว่า”
และภำค ๓ ข้อ ๑๐ ดังนี้
“รัฐภาคีแห่งกติกานี้รับรองว่า
๑. ครอบครัว ซึ่งเป็นหน่วยรวมของสังคมที่เป็นพื้นฐานและเป็นธรรมชาติควร
ได้รับการคุ้มครอง และช่วยเหลืออย่างกว้างขวางที่สุดเท่าที่จะท าได้ โดยเฉพาะใน
การจัดตั้งและในขณะที่ต้องรับผิดชอบต่อการดูแลและการศึกษาของเด็กที่ยัง
พึ่งตนเองไม่ได้ การสมรสต้องกระท าโดยความยินยอมอย่างเสรีของผู้ที่เจตนาจะ
สมรส ๒. มารดาควรได้รับการคุ้มครองพิเศษระหว่างช่วงระยะเวลาตามควรก่อนหรือ
หลังการให้ก าเนิดบุตร ในระหว่างช่วงระยะเวลาเช่นว่า มารดาซึ่งท างานควรได้รับ
อนุญาตให้ลาโดยได้รับค่าจ้าง หรือลาโดยมีสิทธิประโยชน์ด้านสวัสดิการสังคมอย่าง
เพียงพอ...”
รวมไปถึงกำรศึกษำที่รัฐจะต้องให้พลเมืองทุกคนในรัฐได้รับกำรศึกษำ ตำมกติกำข้อ ๑๓ ที่ว่ำ
“๑. รัฐภาคีแห่งกติกานี้รับรองสิทธิของทุกคนในการศึกษา รัฐภาคีเห็นพ้อง
กันว่าการศึกษาจะต้องมุ่งให้เกิดการพัฒนาบุคลิกภาพของมนุษย์และความส านึกใน
ศักดิ์ศรีของตนอย่างบริบูรณ์ และจะต้องเพิ่มพูนการเคารพในสิทธิมนุษยชนและ
เสรีภาพขั้นพื้นฐาน...”
(กติกำระหว่ำงประเทศว่ำด้วยสิทธิทำงเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม, ๒๕๕๕)
อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ
เนื่องจำกเป็นกำรศึกษำเยำวชนหญิงที่ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมและก ำลังประสบกับปัญหำกำร
ด ำรงชีวิตในสังคมและรัฐไทยในมิติสิทธิมนุษยชน จึงจ ำเป็นที่จะต้องใช้อนุสัญญำว่ำด้วยกำรขจัดกำรเลือก
ปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบเป็นกรอบแนวคิดกำรถูกละเมิดสิทธิฯ เพรำะเป็นอนุสัญญำที่มุ่งขจัดกำรเลือก
๑๘