Page 21 - คู่มือพนักงานเจ้าหน้าที่
P. 21

บทที่ 3

                                                  พนักงานเห้าหน้าที่



                   บทบาทและภารกิหของพนักงานเห้าหน้าที่


                          คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้พิจารณาแล้วเห็นว่า มีความจ าเป็นเร่งด่วนที่

                   จะต้องด าเนินการแก้ไขหรือป้ องกันไม่ให้มีการกระท าที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้น ซึ่งการ

                   ละเมิดสิทธิมนุษยชนส่วนหนึ่งเกิดจากการขาดความรู้และความเข้าใจในเรื่องสิทธิมนุษยชน

                   ที่เพียงพอ ประกอบกับพบว่าพื้นที่ที่เกิดกรณีร้องเรียนนั้นมีหลากหลายลักษณะ  ความเป็น

                   เอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ก็มีความส าคัญต่อการพิจารณาตรวจสอบให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ตลอดจน
                   ความร่วมมือของเครือข่ายสิทธิมนุษยชนทั้งภาครัฐและเอกชน ก็มีความส าคัญที่อาจท าให้ปัญหา

                   การละเมิดสิทธิมนุษยชนลดน้อยเบาบางลง จึงเป็นที่มาของแนวความคิดที่จะบูรณาการความ

                   ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ โดยเริ่มต้นเป็นโครงการน าร่อง จังหวัดอันเป็น

                   ที่ตั้งภาคด้านกระบวนการยุติธรรมและจังหวัดที่มีจ านวนเรื่องร้องเรียนมากที่สุดในแต่ละภาค เพื่อ
                   แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่จากภาครัฐและภาคเอกชนให้มีส่วนช่วยเหลือคณะกรรมการสิทธิ

                   มนุษยชนแห่งชาติ

                          การมอบหมายอ านาหหน้าที่

                          โดยที่พระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ.  ๒๕๔๒ มาตรา ๒๖
                   ก าหนดให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีอ านาจในการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อ

                   ช่วยเหลือในการปฏิบัติหน้าที่ ประกอบกับระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ว่าด้วย

                   หลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน พ.ศ.  ๒๕๔๕ ให้ค านิยาม

                   พนักงานเจ้าหน้าที่ ว่า “พนักงานเจ้าหน้าที่ หมายความว่า บุคคลภายนอกซึ่งคณะกรรมการแต่งตั้ง
                   ขึ้นเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานในการ ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน” พนักงานเจ้าหน้าที่จึง

                   ต้องเป็นบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และในการแต่งตั้งนั้น

                   ต้องมีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็น

                   ส าคัญ
                          เมื่อพิจารณาเชื่อมโยงไปยังอ านาจหน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแล้ว

                   จะเห็นได้ว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๒๕๗ วรรคท้าย ได้ให้

                   อ านาจคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในการเรียกเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องจาก

                   บุคคลใดหรือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยค า รวมทั้งมีอ านาจอื่นเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้

                   ตามที่กฎหมายบัญญัติ ดังนั้น เมื่อมีการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว คณะกรรมการสิทธิ
                   มนุษยชนแห่งชาติอาจพิจารณามอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ด าเนินการต่าง ๆ ดังกล่าว เพื่อ

                   ช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าที่ ด้วยการมอบหมายภารกิจโดยคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการที่



                   คู่มือพนักงานเจ้าหน้าที่   18
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26