Page 64 - รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
P. 64
รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
38 ต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ปัจจัยที่สาม คือ การที่
ศาลปกครองกลางมีคำาสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้ระงับโครงการที่กำาลังดำาเนินการในพื้นที่มาบตาพุด
ไว้เป็นการชั่วคราว การใช้สิทธิทางศาลดังกล่าวนำามาสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจและบรรยากาศ
การลงทุนในวงกว้าง ทำาให้ประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญในคดีมาบตาพุด
ได้รับการยกระดับจาก “ระดับพื้นที่เฉพาะ” สู่ “ระดับชาติ”
ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ เหตุการณ์
๑๙ กุมภ�พันธ์ วันครบกำาหนดเงื่อนเวลาของการตรากฎหมายตามบทบัญญัติ มาตรา ๓๐๓
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ที่ให้ดำาเนินการ
จัดทำาหรือปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อม
และสุขภาพให้แล้วเสร็จ แต่รัฐบาลทั้ง ๓ ชุด (นายสมัคร สุนทรเวช
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี)
ยังไม่ได้ดำาเนินการให้เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
๓ มีน�คม ศาลปกครองระยองมีคำาพิพากษาในคดีหมายเลขแดง ที่ ๓๒/๒๕๕๒ ให้
คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติประกาศให้ท้องที่เขตเทศบาลเมือง
มาบตาพุด และบริเวณใกล้เคียงเป็นเขตควบคุมมลพิษ ภายใน ๖๐ วัน
เพื่อดำาเนินการควบคุม ลด และขจัดมลพิษ
๑๘ มีน�คม ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามคำาวินิจฉัย ที่ ๓/๒๕๕๒ ในคดีบ่อขยะที่
ขอนแก่น โดยวางหลักไว้ว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
๒๕๕๐ มีเจตนารมณ์ให้สิทธิและเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญนี้รับรองไว้ มีสภาพ
บังคับได้ทันทีที่มีการประกาศให้รัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับ โดยไม่ต้องรอให้มี
การบัญญัติกฎหมายอนุวัติการมาใช้บังคับก่อนมาตรา ๖๗ ของรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ย่อมมีผลบังคับใช้ทันที ตาม
เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
๓๐ เมษ�ยน นายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ลงนามประกาศให้พื้นที่มาบตาพุด
เป็นเขตควบคุมมลพิษ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๑
พฤษภาคม ๒๕๕๒
๑๖ มิถุน�ยน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ออกประกาศ เรื่อง กำาหนด
ประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการซึ่งต้องจัดทำารายงานการ
วิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติ
และแนวทางการจัดทำารายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งต่อมา
ได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๒
โดยสาระสำาคัญ คือ มีการเพิ่มประเภทกิจการที่ต้องจัดทำารายงานการ
วิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม จาก ๒๒ ประเภท เป็น ๓๔ ประเภท

