Page 60 - รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
P. 60
รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
34 ต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
ปี พ.ศ. ๒๕๕๐ เหตุการณ์
มาบตาพุด ซึ่งสุ่มตรวจจากนักเรียนของโรงเรียนเทศบาลมาบตาพุด จำานวน
๓๐๔ คน พบว่า นักเรียนมีความถี่ของเซลส์ที่มีสารพันธุกรรมผิดปกติซึ่ง
มีค่าที่สูงมาก แสดงให้เห็นว่า คนเหล่านี้ได้รับสารเคมีหรือรังสีที่มีฤทธิ์
ทำาลายสารพันธุกรรม แต่งานสำารวจนี้ไม่สามารถระบุได้ว่าได้รับสารชนิดใด
แต่บ่งชี้ได้ว่า ได้รับสิ่งที่มีพิษที่ไปมีผลทำาลายสารพันธุกรรม
๙ เมษ�ยน เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกยื่นหนังสือต่อเลขาธิการสำานักงาน
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เพื่อขอเรียกร้องใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติ
สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยให้เหตุผลว่า เป็นกลไกใหม่ที่น่าจะช่วย
แก้ปัญหาและปกป้องสุขภาวะของชาวมาบตาพุด โดยอ้างสิทธิตามมาตรา
๕ มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ และมาตรา ๔๐
๒๙ มิถุน�ยน “คณะทำางานเฉพาะกิจเพื่อศึกษาและติดตามการจัดการแก้ไขปัญหาอันเกิด
จากการพัฒนาอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก” จัดการสัมมนาเวที
สาธารณะเรื่อง “ยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากการ
พัฒนาอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก กรณีศึกษาในจังหวัดระยอง” ที่
จังหวัดระยอง โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาจำานวนประมาณ ๒๐๐ คน
๕ กรกฎ�คม เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกยื่นหนังสือร้องเรียนตามคำาร้องที่
๓๙๓/๒๕๕๐ ต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าโครงการก่อสร้าง
โรงไฟฟ้าพลังความร้อนของบริษัท ไออาร์พีซี จำากัด (มหาชน) จะส่งผล
กระทบปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดระยองให้มีความรุนแรงมากขึ้น
กรกฎ�คม ชาวระยอง ๑๕,๐๐๐ คน ร่วมกับเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก จัดเวที
สาธารณะหลายครั้งเพื่อให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับมลพิษจากโรงไฟฟ้า
ถ่านหิน เดินขบวนรณรงค์คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน และยื่น
เรื่องร้องเรียนรัฐบาลผ่านปลัดกระทรวงพลังงาน ทำาให้โรงงานอุตสาหกรรม
ยกเลิกการยื่นซองประมูลโรงไฟฟ้าเพื่อลดความขัดแย้งกับประชาชน
๒๔ สิงห�คม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มีผลใช้บังคับ
๑ ตุล�คม ชาวบ้านมาบตาพุด ๒๗ คน ยื่นฟ้องคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
ต่อศาลปกครองระยอง ว่า ละเลยหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าในการ
ประกาศให้พื้นที่มาบตาพุดเป็นเขตควบคุมมลพิษ เพื่อดำาเนินการควบคุม
ลดและขจัดมลพิษตามกฎหมาย
๒ ตุล�คม คณะรัฐมนตรีมีมติกำาหนดให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในฐานะหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักร่วมกันกับส่วนราชการอื่นทุกหน่วยงาน
กำาหนดมาตรการและกระบวนการรองรับการใช้สิทธิของบุคคลที่จะมีส่วน
ร่วมกับรัฐและชุมชนในการดำาเนินการ ตามมาตรา ๖๗ ของรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐

