Page 68 - รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
P. 68
รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
42 ต่อกรณีข้อร้องเรียนของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ เหตุการณ์
สิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัย สังคม เศรษฐกิจ และการลงทุน และ ๓) จัด
ทำาข้อยุติเพื่อเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาดำาเนินการตามอำานาจหน้าที่
ในการแก้ไขปัญหากรณีพื้นที่มาบตาพุด และพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดระยอง
และการปฏิบัติตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา
๖๗ วรรคสอง ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้เริ่มประชุมครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑๙
พฤศจิกายน ๒๕๕๒
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้ออกประกาศกระทรวง เรื่อง “กำาหนด
หลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติและแนวทางในการจัดทำารายงานการ
วิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำาหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิด
ผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงฯ” โดยมีเนื้อหาส่วนหนึ่งเป็นการจัดตั้ง
“องค์การอิสระสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ” โดยวิธีการจดแจ้ง/ขึ้นทะเบียน
(ต่อมา ได้ยกเลิกประกาศดังกล่าวตามข้อเสนอของคณะกรรมการสี่ฝ่าย )
๒๔ พฤศจิก�ยน คณะกรรมการสี่ฝ่ายได้มีคำาสั่งแต่งตั้ง “คณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทาง
การวินิจฉัยโครงการ กิจการ หรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อ
ชุมชนอย่างรุนแรงทางด้านสุขภาพ” มีอำานาจหน้าที่จัดทำาแนวทางการ
วินิจฉัยโครงการ กิจการ หรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน
อย่างรุนแรงด้านสุขภาพ ตามมาตรา ๖๗ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย” โดยมีนายแพทย์ชูชัย ศุภวงศ์ เป็นประธานอนุกรรมการ
เพื่อเสนอความเห็นด้านสุขภาพต่อคณะกรรมการฯ
๒ ธันว�คม ศาลปกครองสูงสุดมีคำาสั่งยืนตามคำาสั่งศาลปกครองกลางบางส่วน คือ
ให้ระงับการดำาเนินการของ ๖๕ โครงการ และให้ยกเว้นการระงับการ
ดำาเนินการ ๑๑ โครงการที่ศาลเห็นว่ายังไม่เข้าข่ายเป็นโครงการหรือกิจกรรม
ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรง เพราะเป็นเพียงโครงการหรือ
กิจกรรมที่มุ่งควบคุมหรือบำาบัดมลพิษหรือติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์
เพิ่มเติมเท่านั้น
๒๓ ธันว�คม ศาลปกครองกลางมีคำาสั่งให้ยกเลิกการระงับการดำาเนินการไว้เป็นการ
ชั่วคราวของบริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำากัด
คณะกรรมการสี่ฝ่ายมีคำาสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็น
ของประชาชนเพื่อการปรับปรุงรายการ “โครงการหรือกิจการที่อาจก่อ
ให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม
ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ” โดยให้มีอำานาจหน้าที่จัดประชุมในรูปแบบ
เทคนิคพิจารณ์ระหว่างนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อพิจารณา
ความเหมาะสมของประเภทและขนาดของโครงการที่ควรประกาศบังคับใช้
และจัดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการฯ

