Page 249 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 249

(ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท พี บี อาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
                    บริษัทผู้ถูกร้อง มีลูกจ้างจำนวนทั้งสิ้น ๗๘๙ คน ในการทำงานลูกจ้างประสบปัญหาหลายประการ
              กล่าวคือ
                    ลูกจ้างได้รับสารทินเนอร์ในการฉีดพลาสติก ละอองน้ำมันในการปั๊มขึ้นรูปโลหะ โดยผู้ถูกร้องมิได้
              จัดอุปกรณ์ป้องกันอันตรายให้ จำนวนห้องน้ำ โรงอาหาร และตู้น้ำดื่ม ไม่เพียงพอกับลูกจ้างได้รับค่าจ้าง
              ไม่ครบ และมีการหักเงินโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ลูกจ้างที่เข้าใหม่ต้องจ่ายเงินประกันชุดทำงาน คนละ ๑,๐๐๐
              บาท และถูกบังคับให้ซื้อหมวก ผู้บังคับบัญชาใช้คำพูดกับลูกจ้างใต้บังคับบัญชาไม่สุภาพ เป็นต้น
                    (๓) จากสภาพปัญหาดังกล่าว ลูกจ้างบางส่วนจึงมีความประสงค์จะจัดตั้งสหภาพแรงงาน ในที่สุด
              จึงลงความเห็นว่า ให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของผู้ร้อง เพราะบริษัท ออโต้ อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด
              เป็นลูกค้ารายใหญ่ของผู้ถูกร้อง และมีลูกจ้างเป็นสมาชิกของผู้ร้องมากที่สุด
                    ต่อมาลูกจ้างของผู้ถูกร้องที่เป็นสมาชิกของผู้ร้อง ได้หาสมาชิกเพิ่มเติม และเตรียมการจัดประชุมใหญ่
              วิสามัญ เพื่อลงมติในการยื่นข้อเรียกร้องต่อผู้ถูกร้อง เพื่อขอปรับปรุงสภาพการจ้าง และปัญหาการทำงาน
              ซึ่งเป็นกรณีที่ผู้ยื่นข้อเรียกร้องจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายแรงงานสัมพันธ์กำหนดไว้  โดยที่
              ประชุมมีมติให้ดำเนินการดังกล่าว และแต่งตั้งตัวแทนของผู้ร้องในการเจรจาข้อเรียกร้อง จำนวน ๗ คน
                    เมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ ผู้ร้องจึงได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อผู้ถูกร้องให้ปรับปรุงสภาพการจ้าง
              เรื่อง เงินโบนัส การปรับอัตราค่าจ้างประจำปี เบี้ยกันดาร ค่าอาหาร และค่ากะ เป็นต้น ทั้งสองฝ่ายได้เจรจา
              กัน ๕ ครั้ง คือในวันที่ ๘, ๑๖, ๒๔ , ๒๙ พฤศจิกายน และวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๔๙ แต่ไม่สามารถตกลง
              กันได้ จนกระทั่งพนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานได้เข้ามาไกล่เกลี่ย รวม ๙ ครั้ง(วันที่ ๑๓ ธันวาคม
              ๒๕๔๙ ถึงวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๐)
                    ในระหว่างเจรจาข้อเรียกร้องและไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงาน ผู้ถูกร้องได้นำบุคคลแต่งกายคล้ายทหาร
              จำนวน ๔ คน เข้ามาในสถานประกอบการของผู้ถูกร้อง โดยนายอเนก อรรถจินดา ผู้จัดการส่วนบริหาร
              ทรัพยากรมนุษย์ของผู้ถูกร้อง เป็นผู้ต้อนรับและขับรถพาบุคคลดังกล่าวตระเวนรอบ ๆ บริษัทผู้ถูกร้อง และให้
              บุคคลทั้ง  ๔  พักอาศัยอยู่ในโรงงาน  ผู้ร้องจึงได้ถ่ายภาพดังกล่าวไว้และส่งเป็นพยานหลักฐานต่อ
              คณะอนุกรรมการสิทธิแรงงาน
                    วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๔๙ ผู้ถูกร้องได้ใช้สิทธิปิดงาน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๔๙
              เวลา ๑๗.๓๐ น. เป็นต้นไป แต่ต่อมาได้ประกาศเปลี่ยนแปลงให้มีการเปิดงานบางส่วน โดยอ้างว่าเป็นความ
              สมัครใจของลูกจ้าง โดยขอให้กลับเข้าทำงานในวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๔๙ เวลา ๐๘.๐๐ น. เป็นต้นไป
                    ในวันเดียวกันนี้ ผู้ถูกร้องได้ออกหนังสือชี้แจง ฉบับที่ ๑ ระบุข้อความเรื่องการส่งงานให้ลูกค้าไม่ทัน
              ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินและผลิตภัณฑ์  เกิดความแตกแยกในหมู่ลูกจ้าง  และบรรยากาศ
              แรงงานสัมพันธ์ไม่สร้างสรรค์ ดังที่เคยระบุไว้ในประกาศ ลงวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๔๙ ครั้งหนึ่งแล้ว
                    วันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๔๙ ผู้ถูกร้องออกประกาศที่ HRM.๘๒/๒๕๔๙ อ้างว่าในวันดังกล่าว ผู้ร้อง
              และลูกจ้างของผู้ถูกร้องที่ไม่ประสงค์จะเข้าทำงานโดยมีบุคคลภายนอกปะปน ได้ใช้พื้นที่บางส่วนของลาน
              จอดรถของผู้ถูกร้องชุมนุมกันโดยมิได้รับอนุญาต และแจ้งให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าวภายในเวลา ๑๖.๐๐ น.
              ของวันดังกล่าว  มิฉะนั้นถือว่าเป็นการบุกรุกอันเป็นความผิดตามกฎหมาย  และผู้ร่วมชุมนุมต้องชดใช้
              ค่าเสียหาย  โดยส่งสำเนาประกาศให้แก่สำนักงานแรงงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดระยอง
              และสถานีตำรวจภูธรอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
                    ในวันเดียวกันนี้ ผู้ถูกร้องได้ออกประกาศเป็นคำชี้แจงฉบับที่ ๒ ขอบคุณลูกจ้างทุกระดับที่สมัครสมาน
              สามัคคีกัน  และให้ความร่วมมือกับผู้ถูกร้องด้วยการกลับเข้าทำงาน  โดยให้คำมั่นว่าจะให้สวัสดิการที่ดี
              แก่ลูกจ้าง อีกทั้งได้แจ้งว่าลูกจ้างที่กลับเข้าทำงานจะได้รับค่าจ้าง สวัสดิการทุกอย่าง และเงินช่วยเหลือ
              เดินทางกลับภูมิลำเนา คนละ ๒,๐๐๐ บาท แต่ลูกจ้างคนใดที่ไม่กลับเข้าทำงานจะไม่ได้รับสิทธิใดๆ และงด

                                                                    และบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงาน ๒๔๙





     Master 2 anu .indd   249                                                                     7/28/08   9:23:04 PM
   244   245   246   247   248   249   250   251   252   253   254