Page 242 - สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานและบทเรียนหกปีของคณะอนุกรรมการสิทธิแรงงานในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
P. 242
บทที่
๑๐
(๒) ให้ศาลแรงงานพิจารณากำหนดค่าเสียหาย กรณีนายจ้างละเมิดกฎหมาย หรือการ
เลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมให้สูงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ เพื่อให้นายจ้างพิจารณาเลิกจ้างโดยรอบคอบ
และเป็นธรรม และเพื่อคุ้มครองความมั่นคงในการทำงาน
(๓) ให้ศาลแรงงานจัดระบบบริหารคดีเพื่อพิจารณาคดีแรงงานที่มีลักษณะพิเศษ หรือที่มีผล
กระทบต่อลูกจ้างกลุ่มใหญ่หรือองค์กรแรงงานหรือที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความปลอดภัยในการ
ทำงานของลูกจ้าง เพื่อให้คดีเสร็จโดยรวดเร็วและเป็นธรรม
(๔) ในกรณีที่นายจ้างและลูกจ้างต่างฝ่ายต่างฟ้องคดีต่อกันและกันทั้งในศาลแรงงานและ
ศาลอื่น ตลอดจนมีการร้องเรียนต่อหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ให้สำนักงานศาลยุติธรรมกำหนดมาตรการ
เพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งดังกล่าว โดยยึดหลักการประสานความร่วมมือของหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย
๘. ข้อเสนอแนะด้านนโยบายทั่วไป
มีข้อเสนอแนะ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
(๑) ให้มีแผนงานประชาสัมพันธ์ด้วยสื่อที่ประชาชนเข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย เพื่อเพิ่มพูน
ความรู้ในเรื่องสิทธิแรงงานตามกฎหมายเกี่ยวกับแรงงานทุกฉบับ และหลักสิทธิมนุษยชนตามหลัก
กติการะหว่างประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการใช้สิทธิและขั้นตอนการเรียกร้องสิทธิตามกฎหมาย เนื่องจาก
เรื่องดังกล่าวมีความซับซ้อนมาก และประชาชนยังมีความสับสน เช่นในเรื่องกองทุนเงินทดแทนกับ
กองทุนประกันสังคม
(๒) ดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจเชิงรุกเพื่อหันเหทิศทางการจ้างงานที่เน้นการแข่งขันเรื่อง
ค่าจ้างหรือสวัสดิการต่ำ ไปสู่การพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ และเพิ่มคุณภาพชีวิตแรงงาน
ทั้งนี้ ในการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาเศรษฐกิจหรืออุตสาหกรรมของประเทศ
หน่วยงานภาครัฐทางด้านเศรษฐกิจ ควรต้องประสานงานและรับฟังข้อคิดเห็นของหน่วยงานภาครัฐ
ด้านสังคมและภาคประชาสังคมเพื่อให้มีหลักประกันในเรื่องสิทธิแรงงาน สิ่งแวดล้อมที่ดี และ
สิทธิมนุษยชน
(๓) ในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายของหน่วยงานภาครัฐ จำเป็นต้องมีกระบวนการในการ
รับฟังข้อเท็จจริงหรือสถานการณ์ปัญหาจากฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการดำเนินงาน
และตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงโดยภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมคิดและตัดสินใจ
เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาทางเทคนิคหรือข้อขัดแย้งในการนำเสนอกฎหมายระหว่างหน่วยงานภาครัฐ
กับภาคประชาชนในขั้นตอนของรัฐสภาเพราะทำให้เกิดความเสียหาย ความล่าช้าและสูญเสียงบประมาณ
จำนวนมาก
(๔) ให้รัฐบาลเร่งรัดการปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับแรงงานหรือจัดทำประมวลกฎหมายแรงงาน
เพื่อให้ครอบคลุมคนทำงานในทุกภาคส่วนทั้งภาคเอกชน ภาครัฐวิสาหกิจหรือคนทำงานภาครัฐ
รวมทั้งในส่วนที่เป็นภาคในระบบและภาคนอกระบบ เพื่อให้ทันกับระบบการจ้างที่เปลี่ยนแปลงไป
และสอดคล้องกับมาตรฐานแรงงานและรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
๒๔๒ สถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงาน
Master 2 anu .indd 242 7/28/08 9:22:11 PM

