Page 32 - วารสารกฎหมายสิทธิมนุษยชน. ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 (มกราคม - เมษายน 2563)
P. 32
30 วารสารกฎหมายสิทธิมนุษยชน
แมฝายปกครองจะไดรับมอบอํานาจจากกฎหมายใหมีอํานาจกระทําการที่อาจกระทบสิทธิขั้นพื้นฐานของ
เอกชนไดก็ตาม แตศาลปกครองก็ยังมีอํานาจตรวจสอบวาการใชอํานาจตามกฎหมายของฝายปกครอง
นั้นขัดกับหลักความพอสมควรแกเหตุ หรือมีลักษณะที่เปนการจํากัดสิทธิเสรีภาพของบุคคลโดยไมได
สัดสวนหรือไม กลาวอีกนัยหนึ่ง ศาลปกครองยอมตองทําหนาที่เปนผูชั่งนํ้าหนักสิทธิขั้นพื้นฐาน กฎเกณฑ
และหลักการทั้งหลายที่มาปะทะกันใหมีผลทางกฎหมายหรือมีผลในทางความเปนจริงมากที่สุดเทาที่
จะเปนไปได (Optimisation Requirement) ดวยนั่นเอง
นอกเหนือจากศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองซึ่งเปนศาลในระบบกฎหมายมหาชนที่มี
อํานาจในการชี้ขาดขอพิพาทระหวางรัฐกับเอกชนโดยตรงแลว ศาลยุติธรรมซึ่งมีหนาที่ในการชี้ขาด
ขอพิพาทระหวางเอกชนกับเอกชนดวยกันก็เปนศาลที่มีหนาที่ในการพิทักษสิทธิขั้นพื้นฐานของ
ประชาชนดวยเชนเดียวกัน ทั้งนี้ ดังที่ไดอธิบายไปแลววา สิทธิขั้นพื้นฐานหรือสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
มีลักษณะเปนคุณคาพื้นฐานในทางรัฐธรรมนูญที่มีผลใชบังคับในทุกพรมแดนทางกฎหมาย และ
มีผลผูกพันโดยตรงตอองคกรของรัฐทั้งหลาย รวมทั้งมีผลโดยออมเขามากําหนดสิทธิหนาที่ระหวาง
เอกชนกับเอกชนดวยกันในพรมแดนกฎหมายเอกชนดวย ทั้งนี้ ศาลยุติธรรมเปนองคกรสําคัญ
ที่มีหนาที่ในการเชื่อมโยงคุณคาของสิทธิขั้นพื้นฐานเขามาใชในพรมแดนกฎหมายเอกชนผาน
การใชและการตีความบทบัญญัติในกฎหมายเอกชนที่มีลักษณะเปนหลักการทั่วไปหรือเปนบทบัญญัติ
ที่มีความหมายไมเฉพาะเจาะจง ดังนั้น ศาลยุติธรรมจึงมีอํานาจในการชี้ขาดวาการดําเนินการ
ในพรมแดนกฎหมายเอกชนของเอกชนฝายใดฝายหนึ่งเปนการกระทําที่ไมชอบดวยรัฐธรรมนูญไดดวย
กลาวใหชัดเจนยิ่งขึ้น ศาลยุติธรรมเปนองคกรของรัฐอีกองคกรหนึ่งที่มีหนาที่โดยตรงในการชั่งนํ้าหนัก
ระหวางสิทธิขั้นพื้นฐาน หลักการ หรือคุณคาที่ขัดหรือแยงกัน และในการใชและตีความกฎหมายของ
ศาลยุติธรรมนั้น จะตองพยายามชั่งนํ้าหนักใหเกิดความสมดุลระหวางสิทธิขั้นพื้นฐาน หลักการ และ
คุณคาทั้งหลายเหลานั้นดวย ทั้งนี้ เพื่อใหสิทธิขั้นพื้นฐานมีผลบังคับหรือมีผลในทางความเปนจริง
มากที่สุดเทาที่จะเปนไปได (Optimisation Requirement)

