Page 31 - วารสารกฎหมายสิทธิมนุษยชน. ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 (มกราคม - เมษายน 2563)
P. 31
ปที่ 1 ฉบับที่ 1 (มกราคม – เมษายน 2563) 29
ทั้งนี้ เพื่อตรวจสอบวารัฐธรรมนูญไดกําหนดเงื่อนไขในการตรากฎหมายจํากัดสิทธิขั้นพื้นฐานประเภท
นั้นไวอยางไร 2) ตรวจสอบวาการใชอํานาจในการตรากฎหมายเชนวานั้นมีลักษณะที่จํากัดหรือกระทบ
45
ตอสิทธิขั้นพื้นฐานของผูฟองคดีอยางแทจริงหรือไม และ 3) ตรวจสอบความชอบดวยรัฐธรรมนูญของ
การตรากฎหมายจํากัดสิทธิขั้นพื้นฐานนั้น ซึ่งหมายถึงการตรวจสอบวา การตรากฎหมายนั้นเปนไปตาม
เงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญกําหนดหรือไม และแมศาลรัฐธรรมนูญจะเห็นวากฎหมายที่มีเนื้อหาเปนการจํากัด
สิทธิขั้นพื้นฐานนั้นเปนไปตามเงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญกําหนดแลวก็ตาม ศาลรัฐธรรมนูญยังมีหนาที่
ตรวจสอบตอไปวา กฎหมายดังกลาวนั้นจํากัดสิทธิขั้นพื้นฐานของบุคคลเกินสมควรแกเหตุหรือไม
ดังที่เคยอธิบายไวแลววา ในกรณีนี้เปนกรณีที่รัฐธรรมนูญเรียกรองใหศาลรัฐธรรมนูญทําหนาที่เปนผูชั่งนํ้าหนัก
ระหวางสิทธิขั้นพื้นฐาน หลักการ และคุณคาทั้งหลายที่มาปะทะกันอยูนั่นเอง และหนาที่สําคัญของ
ศาลรัฐธรรมนูญก็คือ การพยายามสรางภาวะที่สมดุล (balancing) เพื่อใหสิทธิขั้นพื้นฐาน หลักการ และ
คุณคาทั้งหลายเหลานั้นมีผลบังคับทั้งในทางกฎหมายและมีผลในทางปฏิบัติมากที่สุดเทาที่จะเปนไปได
(Optimisation Requirement) นั่นเอง
นอกเหนือจากศาลรัฐธรรมนูญแลว ศาลปกครองก็เปนศาลที่มีหนาที่โดยตรงในการคุมครอง
สิทธิขั้นพื้นฐานของปจเจกบุคคลทั้งหลาย โดยศาลปกครองมีหนาที่และอํานาจหลักในการตรวจสอบ
ความชอบดวยกฎหมายของการกระทําทางปกครองซึ่งเปนการใชอํานาจตามกฎหมายระดับ
พระราชบัญญัติ ทั้งนี้ ศาลปกครองมีอํานาจในการตรวจสอบวาการใชอํานาจของฝายปกครอง
ขัดกับรัฐธรรมนูญโดยตรงหรือไม เชน ขัดกับหลักความเสมอภาคหรือไม นอกเหนือจากนั้น
45 ทั้งนี้ ตองไมลืมวา รัฐธรรมนูญอาจรับรองสิทธิขั้นพื้นฐานในระดับที่แตกตางกันออกไป โดยการกําหนดเงื่อนไขในการตรา
กฎหมายจํากัดสิทธิขั้นพื้นฐานใหมีความยากงายแตกตางกันออกไป ยกตัวอยางเชน รัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
2560 ไดรับรองสิทธิขั้นพื้นฐานประเภทตาง ๆ แตกตางกันออกไป ดังตอไปนี้
1) สิทธิขั้นพื้นฐานประเภทที่รัฐอาจตรากฎหมายกําจัดสิทธิไดโดยที่รัฐธรรมนูญไมไดกําหนดเงื่อนไขพิเศษในการตรากฎหมายจํากัด
สิทธิขั้นพื้นฐานนั้น โดยในกรณีดังกลาว แมรัฐธรรมนูญจะมุงคุมครองสิทธิขั้นพื้นฐานนั้นเปนหลัก แตฝายนิติบัญญัติก็อาจตรากฎหมาย
จํากัดสิทธิขั้นพื้นฐานนั้นไดตามที่ฝายนิติบัญญัติเห็นสมควร ยกตัวอยางเชน มาตรา 37 วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช 2560 บัญญัติวา “บุคคลยอมมีสิทธิในทรัพยสินและการสืบมรดก” และวรรคสองบัญญัติวา “ขอบเขตแหงสิทธิและ
การจํากัดสิทธิเชนวานี้ ใหเปนไปตามที่กฎหมายบัญญัติ”
2) สิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐอาจตรากฎหมายจํากัดสิทธิไดก็แตโดยการปฏิบัติตามเงื่อนไขพิเศษที่รัฐธรรมนูญกําหนดไว เชน การกําหนด
วัตถุประสงคอยางใดอยางหนึ่งเพื่อเปนเงื่อนไขในการตรากฎหมายนั้น ยกตัวอยางเชน การที่มาตรา 40 วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญ
แหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 บัญญัติวา “บุคคลยอมมีเสรีภาพในการประกอบอาชีพ” และวรรคสองบัญญัติวา
“การจํากัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทําไมได เวนแตโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมายที่ตราขึ้นเพื่อรักษาความมั่นคงหรือ
เศรษฐกิจของประเทศ การแขงขันอยางเปนธรรม การปองกันหรือขจัดการกีดกันหรือการผูกขาด การคุมครองผูบริโภค การจัดระเบียบ
การประกอบอาชีพเพียงเทาที่จําเปน หรือเพื่อประโยชนสาธารณะอยางอื่น”
3) สิทธิขั้นพื้นฐานประเภทที่รัฐธรรมนูญรับรองไวโดยไมอนุญาตใหฝายนิติบัญญัติตรากฎหมายจํากัดสิทธิไดในทุกกรณี
แตการใชสิทธิขั้นพื้นฐานนั้นจะตองไมขัดหรือแยงกับคุณคาบางประการที่รัฐธรรมนูญกําหนดไวเปนการเฉพาะ ยกตัวอยางเชน มาตรา 31
ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 บัญญัติวา “บุคคลยอมมีเสรีภาพบริบูรณในการถือศาสนาและยอมมี
เสรีภาพในการปฏิบัติหรือประกอบพิธีกรรมตามหลักศาสนาของตน แตตองไมเปนปฏิปกษตอหนาที่ของปวงชนชาวไทย ไมเปน
อันตรายตอความปลอดภัยของรัฐ และไมขัดตอความสงบเรียบรอยและศีลธรรมอันดีของประชาชน”.

