Page 176 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2567)

๔

ข้อ ๑๒ การจ้างพนักงานราชการให้กระท าเป็นสัญญาจ้างไม่เกินคราวละสี่ปีหรือตามโครงการ

ที่มีก าหนดเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดไว้ โดยอาจมีการต่อสัญญาจ้างได้ ทั้งนี้ ตามความเหมาะสมและ

ความจ าเป็นของส านักงาน

แบบสัญญาจ้างให้เป็นไปตามที่ส านักงานก าหนด
การท าสัญญาตามวรรคหนึ่ง ให้เลขาธิการหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเลขาธิการเป็นผู้ลงนาม

ในสัญญาจ้าง

ข้อ ๑๓ เครื่องแบบและการแต่งเครื่องแบบของพนักงานราชการ ให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการ

ว่าด้วยการนั้น

ข้อ ๑๔ วันเวลาท างาน หรือวิธีการท างานในกรณีที่ไม่ต้องอยู่ปฏิบัติงานประจ าส านักงาน

ให้เป็นไปตามที่ส านักงานก าหนด ซึ่งอาจแตกต่างกันได้ตามหน้าที่ของพนักงานราชการในแต่ละต าแหน่ง

โดยค านึงถึงผลส าเร็จของงาน

หมวด ๒

ค่าตอบแทน ค่าตอบแทนพิเศษ และสิทธิประโยชน์

ข้อ ๑๕ ให้พนักงานราชการได้รับค่าตอบแทนเป็นรายเดือนในอัตราเดียวกับพนักงานราชการ

ตามระเบียบส านักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ

การก าหนดค่าตอบแทนของพนักงานราชการกลุ่มงานเชี่ยวชาญเฉพาะ ให้ส านักงานพิจารณา
จากคุณวุฒิการศึกษา ประสบการณ์ และผลงาน รวมทั้งสามารถเจรจาต่อรองการได้รับค่าตอบแทน

โดยค านึงถึงงบประมาณของส านักงานตามแผนงานหรือโครงการ และสามารถท าสัญญาได้คราวละหนึ่งปี

ต่อสัญญาจ้างได้ตามแผนงานหรือโครงการ

การก าหนดค่าตอบแทนของพนักงานราชการกลุ่มงานเชี่ยวชาญพิเศษ ให้ส านักงานพิจารณา

จากคุณวุฒิการศึกษา ประสบการณ์ และผลงานความเชี่ยวชาญพิเศษตามความต้องการของแผนงาน
หรือโครงการ รวมทั้งสามารถเจรจาต่อรองการได้รับตอบแทน โดยค านึงถึงงบประมาณของส านักงาน

ตามแผนงานหรือ โครงการด้วย

ข้อ ๑๖ ในกรณีที่ส านักงานต้องการว่าจ้างพนักงานราชการทั่วไปที่มีประสบการณ์ตรงตาม

ลักษณะงานในต าแหน่งที่ว่าจ้าง ให้ผู้ได้รับการว่าจ้างได้รับการปรับอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นได้ร้อยละห้า

ต่อทุกประสบการณ์สองปี แต่ต้องไม่เกินห้าช่วง

ข้อ ๑๗ ให้พนักงานราชการทั่วไปได้รับการพิจารณาเลื่อนค่าตอบแทนประจ าปีตามผล

การประเมินการปฏิบัติงานในวันที่ ๑ ตุลาคมของทุกปี ตามหลักเกณฑ์ ดังนี้

165