Page 29 - รายงานฉบับสมบูรณ์ เหลียวหลังแลหน้า 2 ทศวรรษ สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
P. 29

ความพยายามของ กสม. ที่จะรักษาคุณภาพมาตรฐานขององค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตาม
                    หลักการปารีสไว้ควบคู่กับการทำงานเพื่อส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในสังคมไทย คำถามที่น่าสนใจต่อการ
                    ทบทวนการทำงานที่ผ่านมาของ กสม. ในฐานะที่เป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (National
                    Human Rights Institute) คือ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา กสม.มองเห็นการทำงานของตนเองเป็นอย่างไร
                    สัมพันธ์กับมุมมองและความคาดหวังของสังคมไทยที่มีต่อองค์กรที่ควรจะทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์
                    ปกป้องคุ้มครองส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของคนไทยหรือไม่อย่างไร และอะไรคือบทเรียนสำคัญสำหรับ
                    การพัฒนาองค์กรเพื่อให้มีบทบาทเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและในระดับนานาชาติ


                    วัตถุประสงค์
                          1. เพื่อรวบรวมมุมมองของผู้ปฏิบัติงาน/บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานด้านสิทธิ
                    มนุษยชนทั้งภายในและภายนอก กสม. และสำนักงาน กสม.
                          2. เพื่อประมวลสังเคราะห์และถอดบทเรียน โดยสะท้อนการปรับปรุงโครงสร้าง/นโยบาย
                    (institutionalization) และการหล่อหลอม ตกผลึกและสร้างชุดความคิด (internalization) ผ่าน
                    พัฒนาการของ กสม. และสำนักงาน กสม. ในช่วงระหว่างปี 2544 – 2564
                          3. เพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อการวางยุทธศาสตร์การทำงานของ กสม. ให้มีความ
                    เป็นมืออาชีพสอดคล้องกับมาตรฐานองค์กรสิทธิมนุษยชนสากล


                    กรอบคิดในการค้นคว้าวิจัย


                          ถอดอดีตเพื่อทอดสู่อนาคต
                          การจัดการความรู้เป็นกระบวนการในการเพิ่มคุณค่าและมูลค่าปฏิบัติการทางสังคม เพื่อ
                    วัตถุประสงค์สำคัญ คือ การตกผลึกความรู้ที่มีอยู่ในตน (tacit knowledge) ให้ชัดเจน จัดระบบ และ
                    ถอดบทเรียนและวิเคราะห์จนรู้แจ้ง (explicit knowledge) เป็นความรู้ที่เป็นทางการที่นำไปสู่การ
                    บันทึกลายลักษณ์อักษรส่งต่อการเรียนรู้ไปสู่คนรุ่นใหม่ ๆ ที่อาจจะยังไม่รู้ หรือยังรู้ไม่ชัด โดยมุ่งหวัง
                    ให้เกิดผลลัพธ์ทั้งในระดับตัวบุคคลและระดับองค์กร ในลักษณะที่ระดับบุคคลเกิดการเรียนรู้
                    (learning person) ระดับองค์กรให้เกิดเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (learning organization) (ศุภ
                    วัลย์ พลายน้อย, 2562) และตระหนักถึงความสำคัญทั้งปฏิบัติเป็นประจำร่วมกันเพื่อให้เกิดเป็น
                    ชุมชนแห่งการเรียนรู้และปฏิบัติการโดยใช้ความรู้ที่มีส่วนร่วมด้วยช่วยสร้างด้วยกัน การถอดบทเรียน
                    ทบทวนอดีตที่ผ่านมาทั้งในระดับปัจเจกบุคคล ทั้งในระดับองค์กรจึงเป็นกระบวนที่จะช่วยให้องค์กร
                    สามารถเรียนรู้ทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของตน เพื่อนำมาออกแบบการขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า
























                                                            -20-
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34