Page 177 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ สิทธิชุมชนในการจัดสรรทรัพยากรน้ำโดยใช้แนวทางสันติวิธี : กรณีศึกษาพื้นที่ต้นน้ำของประเทศไทย
P. 177
160
อย่างไรก็ดี กระบวนการสร้างความสมานฉันท์มีความเปราะบางและต้องอาศัยเวลาและความ
อดทนจากทุกฝ่าย เป็นกระบวนการที่มีความเกี่ยวข้องทั้งในส่วนของการยุติความรุนแรง/การหา
ข้อตกลง ซึ่งตั้งอยู่บนฐานคิดว่าความรุนแรงไม่อาจน้ามาซึ่งเป้าหมายและทางออกที่ยั่งยืน และในส่วน
ของการสร้างความสมานฉันท์ปรองดองในสังคม ซึ่งตั้งอยู่บนฐานคิดของความยุติธรรมในระยะเปลี่ยน
ผ่านและการอยู่ร่วมกันบนความแตกต่าง โดยทั้งหมดนี้จะด้าเนินไปเพื่อยุติความรุนแรง ลดความ
เกลียดชังแตกแยก สร้างความไว้วางใจและฟื้นคืนความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มคนที่เคยขัดแย้งกันรุนแรง
และน้าไปสู่สังคมสมานฉันท์ที่ผู้คนซึ่งมีความแตกต่างไม่ว่าจะเป็นทางความคิด ความเชื่อ ชาติพันธุ์
วัฒนธรรม หรือสถานะทางสังคมเศรษฐกิจสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ ในแง่ที่สามารถจัดการกับ
ความขัดแย้งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นปกติธรรมดาของสังคม โดยไม่น้าไปสู่การใช้ความรุนแรงระหว่างกัน
สิ่งส้าคัญคือการที่จะแก้ไขรากเหง้าแห่งความขัดแย้ง หรือหากความขัดแย้งยังคงด้ารงอยู่ก็
จะต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับความขัดแย้งดังกล่าวโดยไม่ให้ความเห็นต่างน้าไปสู่การใช้ความรุนแรงต่อกัน
นั้นจะต้องมีกระบวนการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากกลุ่มพลังต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในสังคมเพื่อ
หาทางออกต่อความขัดแย้ง มีข้อตกลงร่วมกันในการที่จะแก้ไขเหตุแห่งความขัดแย้งหรือบริหารความ
ขัดแย้งมิให้ขยายตัวเป็นความรุนแรง ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะท้าให้สังคมมองเห็นภาพอนาคตร่วมกัน
(Shared Future) อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การบริหารจัดการความขัดแย้งในทรัพยากรน้้ามี
ความหมายเชิงรุกและในเชิงป้องกันความขัดแย้งได้มากกว่า การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง (Water
Conflict Resolution) ยกตัวอย่างเช่นการสร้างกระบวนการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ (Productive
Communication) ของผู้มีส่วนได้เสีย หรืออีกตัวอย่างหนึ่งคือการสร้างกระบวนการท้างานร่วมกัน
ของกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียในทรัพยากรน้้านั้น ๆ
การจัดการความขัดแย้งในทรัพยากรน้้ามีนัยยะที่ไม่ได้เริ่มจากการระบุปัญหาเฉพาะของ
ทรัพยากรน้้าเพื่อท้าการแก้ไขโดยเฉพาะ หากแต่เป็นการบริหารจัดการความขัดแย้งทั้งกระบวนการ
โดยเริ่มจากการวางแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้้าในระยะยาวเพื่อความยั่งยืน โดยกระบวนการ
จัดการความขัดแย้งนั้นมีระยะเวลาในการบริหารจัดการที่ต้องระบุกรอบเวลา (Timeframe ) ให้ชัดเจน
เพื่อที่จะน้าไปสู่สถานการณ์ที่ชนะทั้งคู่ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้้า (Win- Win Outcome)
6.2.2 จากแนวคิดและกรอบกฎหมายสู่การปฏิบัติในพื นที่ ยังคงพบปัญหาความยากล าบาก
ในการใช้สิทธิของชุมชนในการร่วมบริหารจัดการน า
การศึกษาเชิงประจักษ์พื้นที่ต้นน้้าทั้งสองแห่ง ข้อค้นพบจากการส้ารวจเชิงปริมาณและ
เชิงคุณภาพ บ่งชี้ถึงสถานการณ์สิทธิชุมชนในการบริหารจัดการน้้าเชิงสันติวิธีทั้งในบริบทสังคมไทย
และภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติทรัพยากรน้้าปี พ.ศ. 2561 และแผน