Page 109 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ สิทธิชุมชนในการจัดสรรทรัพยากรน้ำโดยใช้แนวทางสันติวิธี : กรณีศึกษาพื้นที่ต้นน้ำของประเทศไทย
P. 109

92



                              3) เข้าชื่อกันเพื่อเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐให้ด้าเนินการใดอันจะเป็นประโยชน์ต่อ
                       ประชาชน หรือชุมชน หรืองดเว้นการด้าเนินการใดอันจะกระทบต่อความเป็นอยู่อย่างสงบสุขของ

                       ประชาชนหรือชุมชน และได้รับแจ้งผลการพิจารณาโดยรวดเร็ว ทั้งนี้ หน่วยงานของรัฐต้องพิจารณา

                       ข้อเสนอแนะนั้นโดยให้ ประชาชนที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการพิจารณาด้วยตามวิธีการที่กฎหมาย
                       บัญญัติ และ

                              4) จัดให้มีระบบสวัสดิการของชุมชน

                              อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญฯ ฉบับ พุทธศักราช 2560 ยังขาดความชัดเจนในการบัญญัติการ
                       รับรองสิทธิชุมชน เพื่อให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ (ชาติชาย วิริยะเจริญกิจ และ

                       สุรัสวดี แสนสุข, 2560) เช่นเดียวกับที่ อรทัย อินต๊ะไชยวงค์ และบรรเจิด สิงห์คะเนติ (2562) กล่าวว่า

                       แม้สิทธิชุมชนจะมีการรับรองในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดอย่างต่อเนื่องแต่ในทางปฏิบัติและ
                       ข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้นพบว่า สิทธิชุมชนยังไม่สามารถยอมรับหรือตอบสนองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

                       อย่างเพียงพอและปัญหาการละเมิดสิทธิชุมชนที่ยังเกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง จึงท้าให้สิทธิ

                       ชุมชนจัดการและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามรัฐธรรมนูญไม่ได้
                       รับรองคุ้มครอง กล่าวคือยังไม่เกิดผลในทางปฏิบัติได้อย่างแท้จริง จึงท้าให้เกิดปัญหาการบังคับใช้และ

                       การตีความรับรองคุ้มครองสถานะของชุมชนและสถานะสิทธิชุมชน ในทางกฎหมาย ขอบเขตแห่งสิทธิ

                       ชุมชน การใช้สิทธิ การเข้าถึงสิทธิชุมชน การจัดการและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ
                       สิ่งแวดล้อมที่ไม่ชัดเจน และปัญหาความขัดแย้งแนวคิดการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

                       ระหว่างรัฐกับประชาชนหรือชุมชนจนกลายเป็นข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานรัฐกับประชาชนหรือ

                       ชุมชนขึ้นสู่การพิจารณาของศาล
                              จากกรณีศึกษาข้างต้น นอกจากจะแสดงให้เห็นช่องว่างทางกฎหมายที่ภาครัฐได้มีการ

                       ควบคุมดูแลทรัพยากรน้้าตามกฎหมายแล้ว แม้ในสภาพปัญหาที่ประสบอยู่ในปัจจุบันภาครัฐจะมีการ

                       ใช้งบประมาณในด้านการจัดการทรัพยากรน้้าจ้านวนมาก มีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงอย่างกรม
                       ทรัพยากรน้้า แต่การจัดการก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจากอดีต ดังเห็นได้จากสภาพปัญหาน้้าท่วม

                       และภัยแล้งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ จากสภาพที่ปรากฏประสิทธิภาพการจัดการน้้า น้าน้้าไป

                       ใช้ให้ผลผลิตอย่างคุ้มค่าก็ยังอยู่ในระดับต่้าในทางกลับกันภาครัฐก็พยายายามที่จะลดบทบาทของ
                       ชุมชนลงซึ่งนอกจากจะไม่ท้าให้ประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการน้้าเพิ่มขึ้นแล้ว ยังอาจจะก่อให้เกิด

                       ความขัดแย้งกับชุมชนในพื้นที่ ท่ามกลางการแก่งแย่งและกีดกันสิทธิของชุมชนในการจัดการ

                       ทรัพยากรธรรมชาติ ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นเดียวกันว่าในความเป็นจริงยังมีชุมชนที่ยังมีรูปแบบการจัดการ
                       ทรัพยากรโดยชุมชนตามจารีตประเพณีท้องถิ่นอยู่ ในช่วงระยะเวลาที่กระแสการมีส่วนร่วมของภาค

                       ประชาชน (Public Participation) มีมากขึ้น และมีงานการศึกษาของนักวิชาการในเรื่องสิทธิชุมชน
                       ทั้งงานด้านสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา และทางประวัติศาสตร์ เช่น อานันท์ กาญจนพันธุ์ เสน่ห์ จามริก
   104   105   106   107   108   109   110   111   112   113   114