Page 29 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 29

ในการด าเนินการตามวรรคหนึ่ง ถ้าเป็นกรณีที่มีผู้แจ้งหรือผู้ร้องเรียน เมื่อผลการพิจารณา                                   ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่เกี่ยวข้องไม่อาจด าเนินการได้เนื่องจากไม่อยู่ในหน้าที่

               เป็นประการใด ให้คณะกรรมการแจ้งให้ผู้แจ้งหรือผู้ร้องเรียนทราบด้วย เว้นแต่ผู้แจ้งหรือผู้ร้องเรียน                         และอ านาจของหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนนั้น หรือเป็นการร้องเรียนโดยใช้สิทธิไม่สุจริต หรือได้มีการ
               มิได้แจ้งสถานที่อยู่ที่จะติดต่อได้                                                                                      แก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสมแล้ว หรือมีเหตุจ าเป็นอื่นใดให้แจ้งให้คณะกรรมการทราบก่อนพ้นก าหนดเวลา
                                                                                                                                       ตามวรรคหนึ่ง
                         มาตรา ๓๕ ในการตรวจสอบเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงตามมาตรา ๓๔ คณะกรรมการ                                                 ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่เกี่ยวข้องมิได้ด าเนินการตามวรรคสองหรือวรรคสาม
               อาจด าเนินการโดยประการใด ๆ ซึ่งต้องไม่สร้างขั้นตอนหรือเป็นภาระแก่บุคคลหรือหน่วยงานของรัฐ
               ที่เกี่ยวข้องมากเกินจ าเป็น และต้องเปิดโอกาสให้ผู้ร้องเรียนหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องชี้แจงและ                  ภายในระยะเวลาที่ก าหนดโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้คณะกรรมการจัดท ารายงานเสนอคณะรัฐมนตรี

               แสดงพยานหลักฐานประกอบค าชี้แจงของตนได้ตามสมควร                                                                                    มาตรา ๓๗ ในกรณีที่การละเมิดสิทธิมนุษยชนเรื่องใดเป็นความผิดอาญาและผู้เสียหาย
                         เพื่อประโยชน์ในการด าเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการมีอ านาจดังต่อไปนี้ ซึ่งต้อง                            ไม่อยู่ในฐานะที่จะร้องทุกข์หรือกล่าวโทษด้วยตนเองได้ ให้คณะกรรมการหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการ

               กระท าเท่าที่จ าเป็น                                                                                                    มอบหมายมีอ านาจร้องทุกข์หรือกล่าวโทษได้โดยให้ถือว่าเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
                         (๑) ขอให้หน่วยงานของรัฐ ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยงานดังกล่าว หรือ                                 ความอาญา

               บุคคลใด มีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงหรือให้ความเห็นในการปฏิบัติงาน หรือมาให้ถ้อยค า หรือส่งวัตถุ                                    มาตรา ๓๘ ในกรณีที่กรรมการผู้ใดพบเห็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและจ าเป็น
               เอกสาร หลักฐาน หรือพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาภายในระยะเวลา                                       ต้องด าเนินการโดยเร่งด่วน ซึ่งหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะเป็นภยันตรายต่อชีวิตหรือร่างกายของบุคคล
               ที่คณะกรรมการก าหนด ในกรณีที่หน่วยงานหรือบุคคลใดไม่ด าเนินการตามที่คณะกรรมการร้องขอ                                     ซึ่งถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่มีทางเยียวยาได้ในภายหลัง กรรมการผู้นั้นอาจแจ้งให้หน่วยงานของรัฐ

               คณะกรรมการจะออกค าสั่งให้หน่วยงานหรือบุคคลนั้นด าเนินการดังกล่าวก็ได้                                                   ให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนตามหน้าที่และอ านาจของ
                         (๒) เข้าไปในเคหสถานหรือสถานที่ใด ๆ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ                         หน่วยงานนั้นได้ แล้วแจ้งให้คณะกรรมการทราบ ในกรณีจ าเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้กรรมการผู้นั้น
               ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ในกรณีที่เคหสถานหรือสถานที่ที่จะเข้าไปนั้นมิได้อยู่ในความครอบครองของหน่วยงาน                      อาจสั่งให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือต ารวจที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ

               ของรัฐ และเจ้าของหรือผู้ครอบครองไม่ยินยอม ให้เข้าไปได้เมื่อมีหมายของศาล                                                 ตามที่เห็นสมควรได้
                         (๓) ออกระเบียบก าหนดหลักเกณฑ์การจ่ายค่าใช้จ่าย ค่าเบี้ยเลี้ยง และค่าเดินทางของบุคคล                                     ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานฝ่ายปกครองหรือต ารวจหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับค าสั่งตาม

               ซึ่งมาให้ความเห็นหรือถ้อยค า และการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่                                                  วรรคหนึ่งที่จะต้องปฏิบัติตามค าสั่งนั้น
                         ในการด าเนินการตาม (๑) หรือ (๒) คณะกรรมการอาจมอบหมายให้กรรมการหรือพนักงาน
               เจ้าหน้าที่ ด าเนินการแทนคณะกรรมการได้ เว้นแต่การออกค าสั่งตาม (๑) ให้มอบหมายได้เฉพาะ                                             มาตรา ๓๙ ภายใต้บังคับมาตรา ๖ ห้ามมิให้คณะกรรมการรับเรื่องที่คณะกรรมการพิจารณา

               กรรมการ ทั้งนี้ ตามระเบียบที่คณะกรรมการก าหนด                                                                           แล้วเห็นว่ามีลักษณะดังต่อไปนี้ ไว้พิจารณา
                         ในการด าเนินการตาม (๒) ให้ด าเนินการต่อหน้าผู้ครอบครองหรือดูแลสถานที่ หรือ                                              (๑) เรื่องที่มีการฟ้องร้องเป็นคดีอยู่ในศาลหรือเรื่องที่ศาลมีค าพิพากษา ค าสั่ง หรือค าวินิจฉัย

               ผู้ซึ่งเกี่ยวข้อง หรือถ้าหาบุคคลดังกล่าวไม่ได้ ก็ให้ด าเนินการต่อหน้าบุคคลอื่นอย่างน้อยสองคน                            เสร็จเด็ดขาดแล้ว เว้นแต่เป็นการศึกษาเพื่อประโยชน์ในการเสนอแนะให้มีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย
               ซึ่งได้ขอร้องให้มาเป็นพยาน ในการนี้ ให้ผู้ครอบครองหรือดูแลสถานที่หรือผู้ซึ่งเกี่ยวข้องให้ความร่วมมือ                    กฎ ระเบียบ หรือค าสั่ง ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน
               เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเป็นไปโดยสะดวก                                                                                   (๒) เรื่องที่ไม่อยู่ในหน้าที่และอ านาจของคณะกรรมการ

                                                                                                                                                 (๓) เรื่องที่อยู่ในหน้าที่และอ านาจขององค์กรอิสระอื่น หรือที่องค์กรอิสระอื่นรับไว้ด าเนินการ
                         มาตรา ๓๖ ในกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบแล้วเห็นว่า การละเมิดสิทธิมนุษยชนกรณีใด                                    ตามหน้าที่และอ านาจขององค์กรอิสระนั้นแล้ว แต่ไม่ตัดอ านาจในการที่จะขอรับทราบผลการพิจารณา
               เป็นเรื่องเฉพาะตัวเป็นรายกรณี ให้แจ้งหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขการละเมิด                            ขององค์กรอิสระที่รับเรื่องไว้ด าเนินการ

               สิทธิมนุษยชนดังกล่าวตามหน้าที่และอ านาจภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการก าหนดซึ่งต้องไม่น้อยกว่า                                        (๔) เป็นการร้องเรียนโดยใช้สิทธิไม่สุจริตและการพิจารณาจะไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
               หกสิบวัน โดยให้คณะกรรมการเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสมในการป้องกันหรือแก้ไข                                        โดยส่วนรวม

               การละเมิดสิทธิมนุษยชนดังกล่าว รวมทั้งการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน                                       (๕) เรื่องที่มีการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสมแล้ว
               ในกรณีนั้นด้วย แล้วแต่กรณี                                                                                                        (๖) เป็นเรื่องที่คณะกรรมการเคยพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เว้นแต่
                         ให้หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่เกี่ยวข้องด าเนินการให้เป็นไปตามที่ได้รับแจ้งภายใน                               จะปรากฏพยานหลักฐานหรือข้อเท็จจริงใหม่อันอาจท าให้ผลการพิจารณาเปลี่ยนแปลงไป

               ก าหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง แล้วแจ้งผลการด าเนินการให้คณะกรรมการทราบภายในระยะเวลาที่                                                   (๗) เรื่องอื่นตามที่คณะกรรมการก าหนด
               คณะกรรมการก าหนด
                                                                                                                                                 ในกรณีที่ความปรากฏในภายหลังว่าเป็นเรื่องที่มีลักษณะตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการ

                                                                                                                                       สั่งยุติเรื่อง


                     20
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34