Page 27 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 27
(๕) สร้างเสริมทุกภาคส่วนของสังคมให้ตระหนักถึงความส าคัญของสิทธิมนุษยชน มาตรา ๓๑ เงินเดือน เงินประจ าต าแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นของกรรมการ
ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น และให้ได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งเท่ากับกรรมการ
มาตรา ๒๗ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๒๖ ให้คณะกรรมการมีหน้าที่ ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเบี้ยประชุมกรรมการ
และอ านาจ ดังต่อไปนี้ด้วย ให้กรรมการได้รับเงินค่ารับรองเหมาจ่ายเป็นรายเดือนตามอัตราที่กระทรวงการคลังก าหนด
(๑) ส่งเสริม สนับสนุน และร่วมมือแก่บุคคล หน่วยงานของรัฐ และภาคเอกชนในการศึกษา ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าเงินประจ าต าแหน่งของประธานกรรมการหรือกรรมการ แล้วแต่กรณี
วิจัย และเผยแพร่ความรู้และพัฒนาความเข้มแข็งด้านสิทธิมนุษยชน รวมตลอดทั้งในการให้ความช่วยเหลือ
หรือเยียวยาแก่ผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน มาตรา ๓๒ กรรมการซึ่งด ารงต าแหน่งไม่น้อยกว่าหนึ่งปีมีสิทธิได้รับบ าเหน็จตอบแทนเป็นเงิน
(๒) ส่งเสริมและเผยแพร่ให้เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปตระหนักถึงสิทธิมนุษยชนของ ซึ่งจ่ายครั้งเดียวเมื่อพ้นจากต าแหน่งด้วยเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
แต่ละบุคคลที่ทัดเทียมกัน และการเคารพในสิทธิมนุษยชนของบุคคลอื่นซึ่งอาจแตกต่างกันในทาง (๑) ครบวาระ
วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และศาสนา (๒) ตาย
(๓) ส่งเสริมความร่วมมือและการประสานงานระหว่างหน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน และ (๓) ลาออก
องค์การระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน (๔) มีอายุครบเจ็ดสิบปี
(๔) เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการที่ประเทศไทยจะเข้าเป็นภาคีหรือการปฏิบัติ ในการค านวณบ าเหน็จตอบแทนนั้น ให้น าอัตราเงินเดือนตามมาตรา ๓๑ คูณด้วยจ านวนปี
ตามหนังสือสัญญาเกี่ยวกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ที่ด ารงต าแหน่ง เศษของปีให้นับเป็นหนึ่งปี
(๕) ออกระเบียบหรือประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ สิทธิในบ าเหน็จตอบแทนนั้น เป็นสิทธิเฉพาะตัว จะโอนไม่ได้ เว้นแต่กรณีตาย ให้ตกได้แก่
(๖) หน้าที่และอ านาจอื่นตามที่ก าหนดไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้หรือกฎหมายอื่น คู่สมรสและทายาทที่ได้แจ้งไว้ และถ้าการตายนั้นเกิดขึ้นเพราะเหตุปฏิบัติหน้าที่หรือในการปฏิบัติหน้าที่
ให้ได้รับเป็นสองเท่าของบ าเหน็จตอบแทนที่ก าหนดไว้ตามวรรคสอง
มาตรา ๒๘ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ให้คณะกรรมการ
มีหน้าที่รับผิดชอบร่วมกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ หมวด ๒
โดยค านึงถึงประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการท างาน และต้องด าเนินการตามมติของคณะกรรมการ การด าเนินการตามหน้าที่ของคณะกรรมการ
เว้นแต่ ที่มีบทบัญญัติหรือที่คณะกรรมการมอบหมายให้กรรมการแต่ละคนกระท าได้ ให้กรรมการแต่ละคน
มีอ านาจที่จะด าเนินการดังกล่าวได้ แต่ในการใช้อ านาจนั้นจะต้องมีการปรึกษาหารือร่วมกันด้วย ทั้งนี้ มาตรา ๓๓ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ให้คณะกรรมการ
ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการก าหนด ด าเนินการโดยมุ่งหมายที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ และให้เฝ้าระวังและ
ในการปฏิบัติหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการจะมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ติดตามเหตุการณ์หรือสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศอย่างต่อเนื่อง
เป็นผู้ด าเนินการตรวจสอบและรวบรวมข้อเท็จจริงเบื้องต้นแทนคณะกรรมการก็ได้ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการด าเนินการโดยการประสานหรือแสวงหา
ความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน และภาคประชาสังคม
มาตรา ๒๙ ในกรณีที่จ าเป็นต้องได้ข้อมูลหรือมีการศึกษาเรื่องใด คณะกรรมการจะขอให้
ส านักงานจ้างบุคคลหรือสถาบันซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญด าเนินการในเรื่องนั้นได้ตามที่จ าเป็น หรือ มาตรา ๓๔ เมื่อความปรากฏต่อคณะกรรมการไม่ว่าโดยทางใด ไม่ว่าจะมีผู้แจ้งหรือ
ในกรณีที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้จะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวแทนก็ได้ โดยต้อง ผู้ร้องเรียนหรือไม่ก็ตามว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้น ให้คณะกรรมการตรวจสอบเพื่อให้ได้มา
ค านึงถึงความคุ้มค่าและประสิทธิภาพที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้ ก่อนการจ้างหรือแต่งตั้ง คณะกรรมการ ซึ่งข้อเท็จจริงที่ถูกต้องและท าความจริงให้ปรากฏโดยไม่ล่าช้า และต้องศึกษาและวิเคราะห์ให้ทราบ
ต้องก าหนดเป้าหมาย ผลสัมฤทธิ์ และระยะเวลาของการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวไว้ให้ชัดเจน ถึงสาเหตุของการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยมุ่งเน้นที่จะแก้ไขปัญหาและป้องกันมิให้เกิดการละเมิด
หลักเกณฑ์และวิธีการจ้าง และค่าตอบแทนของบุคคลหรือสถาบัน หรือการแต่งตั้งอนุกรรมการ สิทธิมนุษยชนในเรื่องนั้นหรือลักษณะเดียวกันนั้นขึ้นอีก
การพ้นจากต าแหน่ง ค่าตอบแทน และประโยชน์ตอบแทนอื่นและวิธีปฏิบัติงานของอนุกรรมการ บุคคลใดที่ได้รับความเสียหายหรือพบเห็นว่ามีการกระท าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการก าหนด ย่อมมีสิทธิแจ้งหรือร้องเรียนต่อคณะกรรมการได้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการก าหนด
ซึ่งต้องไม่มีลักษณะเป็นการสร้างขั้นตอนโดยไม่จ าเป็น และต้องด าเนินการโดยมุ่งหมายให้การเสนอเรื่อง
มาตรา ๓๐ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ให้กรรมการ ต่อคณะกรรมการเป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว และไม่มีลักษณะบังคับให้ต้องเปิดเผยตัวตนของผู้แจ้ง
และพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา หรือผู้ร้องเรียน เว้นแต่เป็นการร้องเรียนเกี่ยวกับประโยชน์ของผู้ร้องเรียนเป็นการเฉพาะตัว ซึ่งจ าเป็น
กรรมการไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางปกครอง เนื่องจากการที่ตนได้ปฏิบัติ ต้องทราบตัวบุคคลเพื่อประโยชน์ในการติดต่อขอข้อมูลหรือแจ้งผลการด าเนินการ
ตามหน้าที่และอ านาจโดยสุจริตตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้
18