Page 25 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 25
(๔) พ้นจากต าแหน่งตามมาตรา ๔๐ วรรคสาม ให้ประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุม ให้กรรมการ
เมื่อประธานกรรมการพ้นจากต าแหน่งประธานกรรมการ ให้พ้นจากต าแหน่งกรรมการด้วย ที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการประชุม
ในกรณีที่มีปัญหาว่ากรรมการผู้ใดพ้นจากต าแหน่งตาม (๒) (๓) หรือ (๔) หรือไม่ ให้เป็นหน้าที่ ที่คณะกรรมการก าหนด
และอ านาจของคณะกรรมการสรรหาเป็นผู้วินิจฉัย ค าวินิจฉัยของคณะกรรมการสรรหาให้เป็นที่สุด มาตรา ๒๔ ในระหว่างการด ารงต าแหน่ง กรรมการต้องไม่รับเงิน ทรัพย์สิน หรือ
ในกรณีที่ไม่มีผู้ด ารงต าแหน่งประธานกรรมการหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการเลือก ประโยชน์อื่นใดจาก
กรรมการคนหนึ่งท าหน้าที่แทนประธานกรรมการ (๑) บุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทย
ในระหว่างที่กรรมการพ้นจากต าแหน่งก่อนวาระ และยังไม่มีการแต่งตั้งกรรมการแทน (๒) นิติบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจหรือกิจการหรือจดทะเบียนสาขา
ต าแหน่งที่ว่าง ให้กรรมการเท่าที่เหลืออยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ แต่ถ้ามีกรรมการเหลืออยู่ไม่ถึงสี่คน อยู่ในหรือนอกราชอาณาจักร
ให้กระท าได้แต่เฉพาะการที่จ าเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ (๓) นิติบุคคลที่จดทะเบียนในราชอาณาจักรโดยมีบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยมีทุนหรือเป็นผู้ถือหุ้น
ในกรณีที่กรรมการจะพ้นจากต าแหน่งตามวาระ ให้ด าเนินการสรรหากรรมการใหม่ภายใน เกินร้อยละสี่สิบเก้า ในกรณีที่เป็นบริษัทมหาชนจ ากัดให้พิจารณาตามที่ปรากฏในทะเบียนผู้ถือหุ้น
หนึ่งร้อยห้าสิบวันก่อนวันที่กรรมการครบวาระ แต่ถ้ากรรมการพ้นจากต าแหน่งด้วยเหตุอื่นนอกจากการ ของบริษัทดังกล่าว หุ้นที่ไม่ปรากฏชื่อผู้ถือหรือโดยตัวแทนของบุคคลที่ไม่เปิดเผยชื่อ ให้ถือว่าเป็นหุ้น
พ้นจากต าแหน่งตามวาระ ให้ด าเนินการสรรหากรรมการภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันที่ต าแหน่ง ที่ถือโดยผู้ไม่มีสัญชาติไทย
ว่างลง
(๔) องค์การหรือนิติบุคคลที่มีรายได้หลักจากทุนหรือเงินอุดหนุนจากต่างประเทศ
มาตรา ๒๑ เมื่อมีผู้ร้องขอโดยมีหลักฐานตามสมควรว่ากรรมการผู้ใดพ้นจากต าแหน่ง ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับกับกรณีที่กรรมการได้รับเชิญจากองค์การระหว่างประเทศหรือ
ตามมาตรา ๒๐ (๒) (๓) หรือ (๔) ให้เลขาธิการวุฒิสภาเสนอเรื่องต่อประธานกรรมการสรรหาภายใน หน่วยงานของรัฐต่างประเทศให้ไปประชุมหรือสัมมนาในต่างประเทศโดยผู้เชิญเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้
ห้าวันนับแต่วันที่ได้รับการร้องขอ และให้คณะกรรมการสรรหาวินิจฉัยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ในการวินิจฉัย ทั้งนี้ เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการแล้ว
ให้ถือเสียงข้างมากและให้ใช้วิธีลงคะแนนโดยเปิดเผย ในกรณีที่มีเสียงเท่ากันให้ประธานกรรมการสรรหา มาตรา ๒๕ กรรมการต้องปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลา และการปฏิบัติหน้าที่และการใช้อ านาจของ
ออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด คณะกรรมการต้องเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม กล้าหาญ และปราศจากอคติทั้งปวงในการใช้ดุลพินิจ
หลักฐานตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการสรรหาก าหนด
และปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามมาตรฐานทางจริยธรรม ทั้งต้องค านึงถึงความผาสุกของประชาชนชาวไทย
มาตรา ๒๒ ในกรณีที่กรรมการต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เพราะถูกกล่าวหาและศาลฎีกาหรือ และผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติเป็นส าคัญ ในระหว่างการด ารงต าแหน่งกรรมการจะเข้ารับการศึกษา
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ด ารงต าแหน่งทางการเมืองประทับรับฟ้อง และมีกรรมการเหลืออยู่ไม่ถึง หรืออบรม ในหลักสูตรหรือโครงการใด ๆ มิได้ เว้นแต่เป็นหลักสูตรหรือโครงการที่คณะกรรมการ
กึ่งหนึ่ง ให้ประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุดร่วมกันแต่งตั้งบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มี เป็นผู้จัดขึ้นโดยเฉพาะส าหรับกรรมการ
ลักษณะต้องห้ามเช่นเดียวกับกรรมการท าหน้าที่เป็นกรรมการเป็นการชั่วคราวให้ครบเจ็ดคน โดยให้ผู้ซึ่ง ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ต้องค านึงถึงวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามและ
ได้รับแต่งตั้งท าหน้าที่ในฐานะกรรมการได้จนกว่ากรรมการที่ตนท าหน้าที่แทนจะปฏิบัติหน้าที่ได้ บริบทของสังคมไทยเป็นส าคัญด้วย
หรือจนกว่าจะมีการแต่งตั้งผู้ด ารงต าแหน่งแทน
มาตรา ๒๖ คณะกรรมการมีหน้าที่และอ านาจ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๒๓ ภายใต้บังคับมาตรา ๒๐ วรรคห้า การประชุมของคณะกรรมการต้องมีกรรมการ (๑) ตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนทุกกรณี
มาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจ านวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ จึงจะเป็นองค์ประชุม ในกรณีที่ โดยไม่ล่าช้า และเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสมในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิด
กรรมการคนใดไม่อาจมาประชุมได้ ให้จดแจ้งเหตุนั้นไว้ในรายงานการประชุม สิทธิมนุษยชน รวมทั้งการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อหน่วยงานของรัฐ
การลงมติในการประชุมของคณะกรรมการให้ใช้คะแนนเสียงข้างมาก โดยประธานในที่ประชุม หรือเอกชนที่เกี่ยวข้อง
และกรรมการที่มาประชุมต้องลงคะแนนเสียงเพื่อมีมติโดยจะงดออกเสียงมิได้ และให้กรรมการคนหนึ่ง (๒) จัดท ารายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศเสนอต่อรัฐสภา
มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ในกรณีมีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมมีสิทธิออกเสียงเพิ่มขึ้น และคณะรัฐมนตรี และเผยแพร่ต่อประชาชน
อีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด (๓) เสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนต่อรัฐสภา
การไม่เข้าประชุมหรือไม่อยู่ในที่ประชุมตามวรรคสองเฉพาะในกรณีมีการพิจารณาวินิจฉัย คณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมตลอดทั้งการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือ
ตามมาตรา ๒๖ (๒) หรือ (๔) โดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้ถือว่าเป็นการจงใจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติ ค าสั่งใด ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน
ตามมาตรฐานทางจริยธรรม แต่ไม่ตัดสิทธิที่จะลาออกจากต าแหน่งก่อนมีการลงมติ (๔) ชี้แจงและรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องโดยไม่ชักช้าในกรณีที่มีการรายงานสถานการณ์
เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยโดยไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม
16