Page 23 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 23

(๑) ประกาศให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปถึงกระบวนการสรรหากรรมการ โดยอย่างน้อย                                  คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มีอยู่ และให้ด าเนินการสรรหาเพิ่มเติมให้ครบตามจ านวน

                ต้องระบุจ านวนต าแหน่งกรรมการที่จะสรรหา หลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่จะใช้ในการสรรหา                               ที่ต้องสรรหาต่อไปโดยเร็ว
                ทุกขั้นตอน และเพื่อประโยชน์แห่งการนี้ ให้คณะกรรมการสรรหาใช้วิธีการสัมภาษณ์หรือให้แสดงความคิดเห็น                                ให้ประธานวุฒิสภาน าความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการ และ
                ในเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่และอ านาจของคณะกรรมการ หรือวิธีการอื่นใดที่เหมาะสม เพื่อประกอบ                             เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ


                การพิจารณาด้วย                                                                                                                  มาตรา ๑๕ ผู้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาให้เป็นกรรมการโดยที่ยังมิได้พ้นจากต าแหน่ง
                          (๒) การสรรหากรรมการให้กระท าโดยการประกาศรับสมัครหรือการเสนอชื่อบุคคล                                        ตามมาตรา ๑๐ (๒๐) (๒๑) หรือ (๒๒) หรือยังประกอบวิชาชีพตามมาตรา ๑๐ (๒๓) อยู่

                ซึ่งมีความเหมาะสมทั่วไปเพื่อเข้ารับการสรรหาซึ่งต้องกระท าโดยเปิดเผย โดยในการเสนอชื่อบุคคล                             ต้องแสดงหลักฐานว่าได้ลาออกหรือเลิกประกอบวิชาชีพดังกล่าวแล้ว ต่อประธานวุฒิสภาภายในเวลา
                เพื่อเข้ารับการสรรหาจะต้องได้รับความยินยอมของบุคคลนั้นด้วย และให้มีการประกาศรายชื่อบุคคล                              ที่ประธานวุฒิสภาก าหนด ซึ่งต้องเป็นเวลาก่อนที่ประธานวุฒิสภาจะน าความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้ง
                ที่จะเข้ารับการสรรหาให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป เพื่อรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับความเหมาะสมของผู้เข้ารับ                    กรรมการ ในกรณีที่ไม่ได้แสดงหลักฐานภายในก าหนดเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าผู้นั้นสละสิทธิ และให้

                การสรรหาดังกล่าวเพื่อประกอบการพิจารณา ในการสรรหาด้วย                                                                  ด าเนินการสรรหาใหม่
                          (๓) ในการสรรหา ให้คณะกรรมการสรรหาปรึกษาหารือเพื่อคัดสรรให้ได้บุคคลซึ่งมี

                ความรับผิดชอบสูง มีความกล้าหาญในการปฏิบัติหน้าที่ และมีพฤติกรรม ทางจริยธรรมเป็นตัวอย่างที่ดี                                    มาตรา ๑๖ ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครหรือ
                ของสังคม มีทัศนคติที่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลส าเร็จ รวมตลอดทั้งค านึงถึงการมีส่วนร่วม                     ผู้ได้รับการสรรหา ให้เป็นหน้าที่และอ านาจของคณะกรรมการสรรหาเป็นผู้วินิจฉัย ค าวินิจฉัยของ
                ของทั้งหญิงและชาย และส่งเสริมความเป็นพหุสังคม และให้คณะกรรมการสรรหาส่งข้อมูลที่ใช้                                    คณะกรรมการสรรหาให้เป็นที่สุด

                ในการพิจารณาคัดสรรไปยังวุฒิสภาเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย                                                                         การเสนอเรื่องเพื่อให้คณะกรรมการสรรหาวินิจฉัยตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
                          การก าหนดระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง ต้องเพียงพอที่จะเปิดโอกาสให้บุคคลสามารถสมัครหรือ                              และวิธีการที่คณะกรรมการสรรหาก าหนด

                เสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาได้อย่างทั่วถึง และท าให้กรรมการสรรหาสามารถพิจารณาคัดสรร                                       การวินิจฉัย ให้ใช้วิธีลงคะแนนโดยเปิดเผย
                บุคคลให้ด ารงต าแหน่งได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ                                                                            ให้น าความในวรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม มาใช้บังคับแก่กรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับ
                          ในการสรรหา ให้ใช้วิธีลงคะแนนโดยเปิดเผยและให้กรรมการสรรหาแต่ละคนบันทึกเหตุผล                                 คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการสรรหาด้วยโดยอนุโลม แต่กรรมการสรรหาที่ถูกกล่าวหาว่า

                ในการเลือกไว้ด้วย                                                                                                     ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามจะอยู่ในที่ประชุมในขณะพิจารณาและวินิจฉัยมิได้

                          ผู้ซึ่งจะได้รับการสรรหาต้องได้รับคะแนนเสียงถึงสองในสามของจ านวนทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของ                                มาตรา ๑๗ ให้ประธานกรรมการสรรหาและกรรมการสรรหาได้รับเบี้ยประชุมและ
                คณะกรรมการสรรหา                                                                                                       ค่าตอบแทนอื่นตามที่ประธานวุฒิสภาก าหนด แต่ส าหรับเบี้ยประชุมให้ก าหนดให้ได้รับเป็นรายครั้ง
                          ถ้าไม่มีบุคคลใดได้รับคะแนนเสียงตามวรรคสี่ หรือมีแต่ยังไม่ครบจ านวนที่จะต้องสรรหา ให้มี                      ที่มาประชุมในอัตราไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของประธานกรรมการหรือกรรมการในคณะกรรมการข้าราชการ
                การลงคะแนนใหม่ส าหรับผู้ได้คะแนนไม่ถึงสองในสาม ถ้ายังได้ไม่ครบตามจ านวนให้มีการลงคะแนน                                รัฐสภาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการรัฐสภาได้รับในแต่ละเดือน แล้วแต่กรณี

                อีกครั้งหนึ่ง ในกรณีที่การลงคะแนนครั้งหลังนี้ยังได้บุคคลไม่ครบ ตามจ านวนที่จะต้องสรรหาให้ด าเนินการ
                สรรหาใหม่ส าหรับจ านวนที่ยังขาดอยู่                                                                                             มาตรา ๑๘ การน าคดีอันเกี่ยวเนื่องกับการได้มา คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม หรือ

                                                                                                                                      การพ้นจากต าแหน่งของกรรมการสรรหาไปสู่ศาลปกครอง ไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการปฏิบัติตามค าวินิจฉัย
                          มาตรา ๑๔ ผู้ได้รับการสรรหาเพื่อแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งกรรมการ ต้องได้รับความเห็นชอบ                        ของคณะกรรมการสรรหา และมิให้น าบทบัญญัติว่าด้วยมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวตามกฎหมาย
                จากวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจ านวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา                             ว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองมาใช้บังคับ

                          ในกรณีที่วุฒิสภาไม่ให้ความเห็นชอบผู้ได้รับการสรรหารายใด ให้ด าเนินการสรรหาบุคคลใหม่
                แทนผู้นั้น แล้วเสนอต่อวุฒิสภาเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป โดยผู้ซึ่งไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา                                  มาตรา ๑๙ กรรมการมีวาระการด ารงต าแหน่งเจ็ดปีนับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง
                ในครั้งนี้จะเข้ารับการสรรหาในครั้งใหม่นี้ไม่ได้                                                                       และให้ด ารงต าแหน่งได้เพียงวาระเดียว

                          เมื่อมีผู้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาแล้ว หากเป็นกรณีที่ประธานกรรมการพ้นจากต าแหน่งด้วย                               ในกรณีที่กรรมการพ้นจากต าแหน่งตามวาระ หรือพ้นจากต าแหน่งตามมาตรา ๒๐ (๔)
                ให้ผู้ได้รับความเห็นชอบประชุมร่วมกับกรรมการซึ่งยังด ารงต าแหน่งอยู่ถ้ามี เพื่อเลือกกันเองให้คนหนึ่ง                   ให้กรรมการที่พ้นจากต าแหน่งปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการใหม่แทน

                เป็นประธานกรรมการแล้วแจ้งผลให้ประธานวุฒิสภาทราบในกรณีที่ผู้ซึ่งวุฒิสภาให้ความเห็นชอบยังได้                                      มาตรา ๒๐ นอกจากการพ้นจากต าแหน่งตามวาระ กรรมการพ้นจากต าแหน่งเมื่อ
                ไม่ครบจ านวนที่ต้องสรรหา แต่เมื่อรวมกับกรรมการซึ่งยังด ารงต าแหน่งอยู่ ถ้ามี มีจ านวนถึงห้าคน                                   (๑) ตาย
                ก็ให้ด าเนินการประชุมเพื่อเลือกประธานกรรมการได้ และเมื่อโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งแล้ว                                       (๒) ลาออก

                ให้คณะกรรมการด าเนินการตามหน้าที่และอ านาจต่อไปพลางก่อนได้ โดยในระหว่างนั้นให้ถือว่า                                            (๓) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๘ หรือมาตรา ๙ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๐



                     14
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28