Page 44 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
P. 44

รายงานการศึกษาวิจัย
                  เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน


                                           5 ตราสารสิทธิมนุษยชนในอาเซียน

                         บทที่ 5 เป็นการวิเคราะห์ตราสารหรือพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนในอาเซียน ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์
                  หลักของรายงานฉบับนี้ โดยคณะผู้วิจัยใช้เอกสารที่ส านักเลขาธิการอาเซียนรวมรวมและเผยแพร่อย่างเป็น
                  ทางการบนเวปไซต์ของอาเซียน (www.asean.org)  ซึ่งได้รวบรวมอยู่ในภาคผนวก 1  และเป็นเอกสารที่
                                                                                         42
                                                             41
                  ส านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติก าหนดให้เป็นเอกสารหลักในการวิเคราะห์ โดยจากการ
                  ตรวจสอบและวิเคราะห์เอกสารดังกล่าวประกอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องพบว่า พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชน
                  ในอาเซียนที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย (Legally binding หรือ Hard law) มีอยู่อย่างจ ากัด (รายละเอียด
                  ปรากฏในหัวข้อ 5.2) ซึ่งน่าจะมีสาเหตุสองประการคือ ประการแรก การรวมตัวในอาเซียนในช่วงที่มีการ

                  จัดท าวิสัยทัศน์ฉบับแรก (ดูหัวข้อ 6.1) มีวัตถุประสงค์หลักในการขับเคลื่อนการรวมตัวด้านเศรษฐกิจมิใช่
                  ด้านสังคมหรือสิทธิมนุษยชน ประเด็นสิทธิมนุษยชนที่ปรากฏขึ้นก่อนการประกาศใช้กฎบัตรอาเซียน
                  มีลักษณะเป็นประเด็นที่เป็นผลลัพธ์หรือผลกระทบของการรวมตัวทางเศรษฐกิจมากกว่าที่จะเป็นประเด็น
                  หลัก และประการที่สอง กฎบัตรอาเซียนเพิ่งมีผลใช้บังคับเมื่อปี พ.ศ. 2551 ดังนั้นการพัฒนาตราสารด้าน

                  สิทธิมนุษยชนที่มีผลผูกพันทางกฎหมายจึงยังมีอยู่อย่างจ ากัดแต่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มจ านวนมากขึ้น ซึ่งเป็น
                  ผลโดยตรงจากการจัดตั้งกลไกสิทธิมนุษยชนอาเซียนที่มีอ านาจหน้าที่ในการพัฒนามาตรฐานสิทธิมนุษยชน
                  นอกจากนั้นยังพบว่า ตราสารสิทธิมนุษยชนส่วนใหญ่ของอาเซียนมีลักษณะเป็นตราสารทางการเมือง
                  (Political instruments) ซึ่งแสดงออกถึงเจตจ านงทางการเมืองของประเทศสมาชิกในการให้ความร่วมมือ

                  ในประเด็นสิทธิมนุษยชนด้านต่างๆ และรวมถึงการพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดท าตราสารทาง
                  กฎหมายต่อไปโดยตราสารสิทธิมนุษยชนที่ส าคัญที่สุดคือปฏิญญาสิทธิมนุษยชนอาเซียน (AHRD) ซึ่งถูก
                  ประกาศใช้ในปี พ.ศ. 2555 ด้วยข้อเท็จจริงและข้อพิจารณาดังกล่าว การวิเคราะห์ในบทนี้ จึงแยกออกเป็น

                  สามส่วนหลัก โดยส่วนแรกเป็นการวิเคราะห์ตราสารสิทธิมนุษยชนที่มีลักษณะเป็นพันธกรณีทางการเมืองซึ่ง
                  เป็นกลุ่มที่มีจ านวนมากที่สุด ในส่วนที่สองจะวิเคราะห์ตราสารที่สร้างพันธกรณีทางกฎหมาย และในส่วน
                  สุดท้ายจะวิเคราะห์ข้อจ ากัดในการจัดท าตราสารสิทธิมนุษยชนทั้งที่เป็นตราสารทางการเมืองและ
                  ตราสารทางกฎหมาย


                         ก่อนเข้าสู่เนื้อหาการวิเคราะห์ จ าเป็นต้องสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับนิยามของค าที่ใช้ในการ
                  วิเคราะห์ได้แก่ค าว่า “พันธกรณี” และ “ตราสาร” โดยค าว่า “พันธกรณี” หรือ Obligation หรือ
                  Commitment สื่อถึงข้อผูกมัดหรือหน้าที่ซึ่งอาจเป็นข้อผูกมัดที่ก่อให้เกิดผลทางกฎหมาย (มีกลไกทาง

                  กฎหมายรองรับกรณีมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อผูกมัดหรือหน้าที่ดังกล่าว) หรือทางการเมือง (ไม่มี
                  กลไกหรือกระบวนการทางกฎหมายรองรับ แต่อาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาหรือการตอบโต้ทางการเมืองกรณีมี
                  การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อผูกมัดหรือหน้าที่) ส่วนค าว่า “ตราสาร” หรือ Instrument เป็นเอกสารที่
                  แสดงออกถึงเจตนารมณ์ของคู่กรณีที่ร่วมจัดท าตราสาร ทั้งนี้ ตราสารอาจปรากฏได้ในหลายรูปแบบและใช้
                  ชื่อที่แตกต่างกันออกไปเช่น กฎบัตร อนุสัญญา ปฏิญญา ค าประกาศ บันทึก มติ เป็นต้น โดยตราสารที่มีผล

                  ผูกพันทางกฎหมายในทางระหว่างประเทศจะเรียกว่า “สนธิสัญญา” หรือ Treaty และมีหลักเกณฑ์ก ากับ


                  41  ปรากฏที่ <<http://agreement.asean.org/>> ซึ่งเข้าเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2558
                  42  เอกสารฉบับนี้เป็นฉบับที่ส านักเลขาธิการอาเซียนได้จัดท าขึ้นใหม่แทนที่ข้อมูลเดิมที่ได้เคยประกาศไว้และส านักงาน
                  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติใช้ในการประกาศขอบเขตงาน (TOR) ซึ่งคณะผู้วิจัยได้รวมข้อมูลเดิมดังกล่าวใน
                  ภาคผนวก 2



                  National Human Rights Commission of Thailand                                          37
   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49