Page 27 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
P. 27
รายงานการศึกษาวิจัย
โครงการการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
เนื่องจากความอ่อนไหวในประเด็นอิสรภาพของประเทศที่เพิ่งได้รับ ในเวลาเกือบสองทศวรรษนับตั้งแต่มี
การก่อตั้ง OAU จึงได้มีการตรากฎบัตรอาฟริกาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและประชาชน (African Charter on
Human and Peoples’ Rights) หรือกฎบัตรบันจุล (Banjul Charter) ขึ้นในปี พ.ศ. 2524 โดยมีผลใช้
บังคับในปี พ.ศ. 2529 โดยมีสภาพเป็นตราสารสิทธิมนุษยชนที่มีผลบังคับทางกฎหมายและในปัจจุบันมี
สมาชิก 53 ประเทศ และในปี 2543 หรือ ค.ศ. 2000 ได้มีการตราบทบัญญัติธรรมนูญจัดตั้งสหภาพ
18
อาฟริกา (Constitutive Act of the African Union) ขึ้น ซึ่งมีผลใช้บังคับในปีถัดมา โดยประเด็นที่
19
น่าสังเกตของธรรมนูญจัดตั้ง AU ซึ่งสามารถใช้เปรียบเทียบกับกฎบัตรอาเซียนได้ต่อไปคือ การที่เอกสาร
ดังกล่าวก าหนดหลักการห้ามการแทรกแซงในกิจการภายในของประเทศสมาชิก และการให้ความเคารพ
20
หลักประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน นิติรัฐและธรรมาภิบาลเช่นเดียวกับกฎบัตรอาเซียน แต่ก็ได้ก าหนด
หลักการให้สิทธิ AU ในการเข้าแทรกแซงสมาชิกตามค าตัดสินของสมัชชา (Assembly) ในกรณีสถานการณ์
รุนแรงซึ่งได้แก่ อาชญากรรมสงคราม การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และยังให้สิทธิ
21
ประเทศสมาชิกในการร้องขอให้ AU เข้าแทรกแซงกิจการภายในเพื่อฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง
22
กฎบัตรอาฟริกามีข้อแตกต่างที่ส าคัญจากตราสารสิทธิมนุษยชนในอีกสองภูมิภาคที่ได้
กล่าวถึงข้างต้นคือ ได้ก าหนดสิทธิทางสังคมและเศรษฐกิจไว้หลายประการซึ่งมีความเท่าเทียมกันในแง่ที่
สามารถได้รับการพิจารณาโดยองค์กรตุลาการได้ (Justiciable) เช่นเดียวกันกับสิทธิพลเมืองและสิทธิ
ทางการเมือง และการรองรับสิทธิของกลุ่มประชาชน (Collective rights) เช่น สิทธิของประชาชนในการ
23
มีอยู่ (Right to existence) สิทธิในการตัดสินใจด้วยตนเอง (Right to Self-Determination) สิทธิในการ
พัฒนา (Right to Development) สิทธิในความมั่นคงและสันติภาพระหว่างประเทศ (Right to
International Peace and Security) และสิทธิในสภาพความเป็นอยู่ที่เป็นที่น่าพอใจโดยทั่วไป (Right to
Generally Satisfactory Environment) ซึ่งสิทธิของกลุ่มบุคคลเหล่านี้มีสถานะเท่าเทียมกับสิทธิอื่นๆ ซึ่งมี
ลักษณะเป็นสิทธิของปัจเจกบุคคล
ในระยะเริ่มแรกการก ากับดูแลการอนุวัติการตามกฎบัตรอาฟริกาเป็นภารกิจของ
คณะกรรมาธิการอาฟริกาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและสิทธิประชาชน (African Commission on Human
and Peoples’ Rights) แต่ต่อมาในปี พ.ศ. 2531 ได้มีการตราพิธีสารเลือกรับตามกฎบัตรอาฟริกาเพื่อ
18 จากประเทศในทวีปอาฟริกาทั้งหมดจ านวน 54 ประเทศ โดยมีข้อยกเว้นเพียงประเทศเดียวที่ยังไม่เป็นภาคีคือซูดานใต้
(South Sudan) ซึ่งเพิ่งได้รับเอกราชแยกจากซูดานในปี 2554
19 รายละเอียดของ AU ดูเพิ่มเติมที่ <<http://www.au.int/>> ส าหรับบทวิเคราะห์เกี่ยวกับกลไกการคุ้มครองสิทธิ
มนุษยชนของ AU ดูได้ที่ De Schutter, เชิงอรรถที่ 8 หน้า 1033-1038 และ Sarkin, Jeremy, The African Commission
on Human and People’s Rights and the Future African Court of Justice and Human Rights: Comparative
Lessons from the European Court of Human Rights (August 3, 2012). 18(3) South African Journal of
International Affairs. (December 2011) 281-293.
20 ธรรมนูญจัดตั้ง AU ม. 4(g)
21 อ้างแล้ว ม. 4(h)
22 อ้างแล้ว ม. 4(j)
23 De Schutter, อ้างแล้ว หน้า 31 และดูการวิเคราะห์เพิ่มเติมได้ที่ Alston, Philip and Goodman, Ryan,
INTERNATIONAL HUMAN RIGHTS, (2012, Oxford) หน้า 1025
National Human Rights Commission of Thailand 20