Page 215 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 215
ผู้มีอํานาจ หน้าที่ สิทธิ ดูแล รักษา คุ้มครอง ป้ องกัน ที่สาธารณประโยชน์
้
1. ประชาชนชาวไทย ดูแล รักษา คุ้มครอง ปองกัน ที่สาธารณประโยชน์ในฐานทรัพยากรธรรมชาติ
ที่ทุกคนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ตามมาตรา 5, 26-30, 56-60 และ 62, 66 และ 67 ประกอบมาตรา 6
5
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
้
2. ชุมชน ชุมชนท้องถิ่น ชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม ดูแล รักษา คุ้มครอง ปองกัน ที่สาธารณประโยชน์
ในฐานทรัพยากรธรรมชาติที่ทุกคนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ตามมาตรา 66, 67 ประกอบมาตรา 6 และ
มาตรา 27 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
3. ผู้ว่าราชการจังหวัด อาศัยอํานาจตามมาตรา 9 ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 และ
คําสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 109/2538 ลงวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2538 เรื่อง แต่งตั้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด
เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินฯ
5
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
มาตรา 56 บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับทราบและเข้าถึงข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะในครอบครองของ
หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่นเว้นแต่การเปิดเผยข้อมูลหรือข่าวสารนั้น
จะกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยของประชาชน หรือส่วนได้เสียอันพึงได้รับความคุ้มครองของบุคคลอื่น
หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ
มาตรา 57 บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับข้อมูล คําชี้แจง และเหตุผลจากหน่วยราชการหน่วยงานของรัฐ
รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น ก่อนการอนุญาตหรือการดําเนินโครงการหรือกิจกรรมใดที่อาจมีผลกระทบต่อ
คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัยคุณภาพชีวิต หรือส่วนได้เสียสําคัญอื่นใดที่เกี่ยวกับตนหรือชุมชนท้องถิ่น และมีสิทธิ
แสดงความคิดเห็นของตนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนําไปประกอบการพิจารณาในเรื่องดังกล่าว
การวางแผนพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรม การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ การวางผังเมือง
การกําหนดเขตการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และการออกกฎที่อาจมีผลกระทบต่อส่วนได้เสียสําคัญของประชาชน ให้รัฐ
ั
จัดให้มีกระบวนการรับฟงความคิดเห็นของประชาชนอย่างทั่วถึงก่อนดําเนินการ
6‐6