Page 223 - ศัพท์สิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 223

ความรับผิดของบรรษัทข้ามชาติและภาคธุรกิจเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนเพื่อเสนอ
            ต่อคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนในคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งต่อมา
            ได้เปลี่ยนฐานะเป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน

                  ใน ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2554) คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนได้รับรองรายงาน
            ชื่อ “กรอบการทำางานสหประชาชาติว่าด้วยการปกป้องคุ้มครอง การเคารพ
            และการเยียวยา”  ที่เสนอโดยนายรักกี  ดังนั้นบางทีจึงเรียกแนวทางนี้ว่า
            “กรอบการดำาเนินงานแบบรักกี (Ruggie’s Framework)”

                  กรอบการทำางานดังกล่าว มีหลักการสำาคัญสามประการ คือ
                  1. รัฐเป็นองค์กรที่อยู่ในลำาดับแรกที่มีหน้าที่ปกป้องคุ้มครอง (Protect)
                    บุคคลไม่ให้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยบุคคลที่สาม รวมถึงการละเมิด
                    ที่เกิดจากบรรษัทข้ามชาติและภาคธุรกิจ

                  2. ภาคธุรกิจและบรรษัทข้ามชาติมีความรับผิดชอบในการเคารพ
                    (Respect)  สิทธิมนุษยชนในการดำาเนินงานภายใต้หลักกฎหมาย
                    “การใช้ความระมัดระวังอย่างพอเพียง (Due Diligence)” เพื่อไม่ให้
                    การดำาเนินการตามธุรกิจนำาไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชน

                  3. ขยายการเข้าถึงการเยียวยา (Remedy) การละเมิดสิทธิมนุษยชน
                    ที่มีประสิทธิภาพ ทั้งการเยียวยาโดยกระบวนการทางศาล และไม่
                    ใช้กระบวนการทางศาล หรือโดยมาตรการอื่น เช่น การตั้งกองทุน
                    ชดเชย เป็นต้น
                  ตามหลักกฎหมายสิทธิมนุษยชนดั้งเดิม  รัฐเท่านั้นที่มีพันธะหน้าที่
            ในการประกันสิทธิมนุษยชน (ดู OBLIGATION TO PROTECT, RESPECT
            และ FULFIL) บรรษัทข้ามชาติและภาคธุรกิจไม่มีหน้าที่ประกันสิทธิมนุษยชน
            แก่บุคคล กรอบการดำาเนินงานของสหประชาชาติฯ ถือว่าเป็นความพยายาม
            ของสหประชาชาติในการเชื่อมโยงความรับผิดของบรรษัทข้ามชาติและ
            ภาคธุรกิจกับปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้น









        212
   218   219   220   221   222   223   224   225   226   227   228