Page 198 - ศัพท์สิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 198

จะกระทำาความผิดหรือได้กระทำาความผิด  ในกรณีที่มีการตรวจค้นที่ไม่ชอบ
            ด้วยกฎหมาย  บุคคลย่อมมีสิทธิปฏิเสธที่จะถูกตรวจค้นโดยไม่ถือว่าเป็นการ
            ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน

                  ตามกฎหมายไทยอำานาจการค้นตามกฎหมายแบ่งได้สองประเภท คือ
            การค้นตัวบุคคล และการค้นเคหสถาน หรือที่รโหฐาน

                  • การค้นตัวบุคคล  ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญากำาหนดว่า
                    เจ้าพนักงานตำารวจจะค้นตัวได้ต่อเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าบุคคลนั้น
                    มีสิ่งของในความครอบครองเพื่อจะใช้ในการกระทำาความผิด
                    หรือซึ่งได้มาโดยการกระทำาความผิด  หรือซึ่งมีไว้เป็นความผิด
                    หรือเพื่อยึดสิ่งของต่าง  ๆ  ที่อาจใช้เป็นพยานหลักฐานเอาผิดกับ
                    ผู้ต้องหาได้  ในกรณีที่ยังไม่ปรากฏความผิดจะทำาการค้นบุคคลใด
                    ในที่สาธารณสถานมิได้ เว้นแต่ พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำารวจ
                    เป็นผู้ค้นในเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่า  บุคคลนั้นมีสิ่งของในความ
                    ครอบครองเพื่อจะใช้ในการกระทำาความผิด  หรือซึ่งได้มาโดย
                    การกระทำาความผิด  หรือซึ่งมีไว้เป็นความผิด  ส่วนการค้นตัว
                    บุคคลหลังจับกุมตัวแล้ว  เจ้าพนักงานผู้จับหรือรับตัวผู้ถูกจับไว้
                    มีอำานาจค้นตัวผู้ต้องหาและยึดสิ่งของต่าง  ๆ  ที่อาจใช้เป็นพยาน
                    หลักฐานได้  การค้นนั้นจักต้องทำาโดยสุภาพ  ถ้าค้นผู้หญิงต้องให้
                    หญิงอื่นเป็นผู้ค้น
                  • การค้นเคหสถาน  หรือค้นที่รโหฐาน  หมายถึง  ที่ต่างๆ  ซึ่งมิใช่ที่
                    สาธารณะที่บุคคลทั่วไป  หรือประชาชนจะเข้าออกตามอำาเภอใจ
                    เช่น  บ้านพักอาศัยกฎหมายกำาหนดห้ามมิให้ค้นที่รโหฐานโดยไม่มี
                    หมายค้น (Writ of Search) เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้

                     -  เมื่อมีเสียงร้องให้ช่วยมาจากข้างในที่รโหฐาน  หรือมีเสียง
                       หรือพฤติการณ์อื่นใดอันแสดงได้ว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นในที่นั้น

                     -  เมื่อปรากฏความผิดซึ่งหน้ากำาลังกระทำาลงในที่รโหฐาน
                     -  เมื่อบุคคลที่ได้กระทำาความผิดซึ่งหน้า ขณะที่ถูกไล่จับหนีเข้าไป
                       หรือมีเหตุอันแน่นแฟ้นควรสงสัยว่าได้เข้าไปซุกซ่อนตัวอยู่
                       ในที่รโหฐานนั้น

                                                                        187
   193   194   195   196   197   198   199   200   201   202   203