Page 12 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง ปัญหาและมาตรการทางกฎหมายในการรับรองและคุ้มครองสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว
P. 12
VII
(๔) เสื้อผ้าและที่นอน
- ผู้ต้องขังที่มิได้รับอนุญาตให้ใช้เสื้อผ้าของตนเอง จะได้รับบริการ
เสื้อผ้าที่เหมาะสมและบริการซักรีดตามที่ก่าหนด
- ผู้ต้องขังที่อยู่นอกเรือนจ่าได้รับอนุญาตที่จะใช้เสื้อผ้าของตนเอง
- ผู้ต้องขังทุกคนควรได้รับที่นอนส่วนตัว และสะอาด
(๕) อาหาร ผู้ต้องขังควรได้รับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัยตลอดจนได้
ดื่มน้่าเมื่อร่างกายต้องการ
(๖) การออกก่าลังกายและเล่นกีฬา ผู้ต้องขังทุกคนที่มิได้ท่างานกลางแจ้ง
ควรจะมีเวลาออกก่าลังกายกลางแจ้งอย่างน้อยวันละหนึ่งชั่วโมง ส่วนผู้ต้องขังที่เป็นเยาวชน จะได้รับ
การฝึกกายบริหาร
(๗) การให้บริการทางการแพทย์
- ในเรือนจ่าควรมีแพทย์รักษาโรคทั่วไปและพอมีความรู้ทางจิตเวช
ตรวจรักษาอยู่เป็นประจ่า
- ผู้ต้องขังซึ่งจ่าต้องได้รับการรักษาพยาบาลเป็นกรณีพิเศษจะได้รับ
การส่งตัวไปรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลซึ่งรักษาประชาชนทั่วไปหรือได้รับการรักษาในที่ที่จัดไว้
โดยเฉพาะ
- ควรมีทันตแพทย์ให้บริการแก่ผู้ต้องขังทุกคน
- ควรมีบริการดูแลหญิงมีครรภ์โดยพยาบาลผดุงครรภ์
- ผู้ต้องขังทุกคน ควรได้รับการตรวจร่างกายหลังจากถูกส่งตัวเข้ามาใน
เรือนจ่า ส่วนผู้ต้องขังที่พบว่ามีโรคติดต่อต้องแยกขัง
- แพทย์ต้องตรวจร่างกายแก่ผู้ต้องขังทุกวันไม่ว่าจะได้รับการร้องขอ
หรือถูกส่งตัวมาให้รักษา
- แพทย์ต้องรายงานต่อพัศดีในกรณีที่สุขภาพของผู้ต้องขัง อาจเป็น
อันตรายจากการที่จะให้จ่าคุกต่อไป หรือภายใต้การรับอาหาร อนามัย ที่นอน หรือเสื้อผ้าภายในเรือนจ่า
(๘) วินัยและการลงโทษ
- ข้อก่าหนดเกี่ยวกับการวินัยของผู้ต้องขังไม่ควรจะเคร่งครัดไปกว่าที่
จ่าเป็นเพื่อให้เขาอยู่ภายใต้การควบคุมและปฏิบัติตามค่าสั่ง
- ห้ามใช้ผู้ต้องขังคนใดท่างานเกี่ยวกับการรักษาวินัย
- การกระท่าใดถือว่าเป็นการกระท่าที่ผิดวินัย และการรับโทษต้อง
ก่าหนดไว้ในกฎหมายหรือข้อบังคับ และผู้ต้องขังสามารถต่อสู้ข้อกล่าวหาได้
- ห้ามมิให้ลงโทษแก่ผู้ต้องขังในลักษณะที่ทารุณ โหดร้าย
ไร้มนุษยธรรม หรือลดความเป็นมนุษย์ลง ซึ่งหมายรวมถึง การเฆี่ยนตี การขังในห้องมืด เป็นต้น